รีเซต

CENTEL กำไรสุทธิ Q3/68 โต 2% แตะ 191 ลบ.

CENTEL กำไรสุทธิ Q3/68 โต 2% แตะ 191 ลบ.
ทันหุ้น
14 พฤศจิกายน 2568 ( 19:28 )
21

CENTEL กำไรสุทธิ Q3/68 โต 2% แตะ 191 ลบ.

#ทันหุ้น #SET #CENTEL บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3/2568: ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 ปรับตัวดีขึ้นเทียบปีก่อน และปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2/2568 อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,825 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567: 5,594 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 231 ล้านบาท (หรือเพิ่มขึ้น 4%) โดยสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อรายได้จากธุรกิจอาหารอยู่ที่ 44% : 56% (ไตรมาส 3/2567: 43% : 57%) และกำไรขั้นต้นรวม 3,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567: 3,128 ล้านบาท) 

โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 60% ของรายได้ (ไม่รวมรายได้อื่น) เพิ่มขึ้นเล็กเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567: 58%) บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 1,464 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567: 1,373 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 91 ล้านบาท (หรือเพิ่มขึ้น 7%) เทียบไตรมาส 3/2567 

โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ต่อรายได้รวม (%EBITDA) 25% ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567: 25%) บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ (EBIT) 584 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท หรือ 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567: 520 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 191 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567: 188 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท หรือ 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของกำไรในธุรกิจอาหารเป็นสำคัญ

 ขณะที่ธุรกิจโรงแรมยังคงมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานตามที่รายงาน (รวมผลของรายการที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก) 

ไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 1,433 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567: 1,348 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 85 ล้านบาท (หรือเพิ่มขึ้น 6%) เทียบไตรมาส 3/2567 

โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ต่อรายได้รวม (%EBITDA) 25% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567: 24%) และมีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567: 163 ล้านบาท) ลดลง 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลต่างจาก Core Performance ประกอบด้วยรายการพิเศษเพียงครั้งเดียว ได้แก่ 

การด้อยค่าเงินลงทุนในการร่วมค้า บริษัท ORC Coffee Passion Group Joint Stock Company จำนวน 49 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการเลิกกิจการ Café Amazon Vietnam, กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินกู้ยืมสกุลต่างประเทศจำนวน 41 ล้านบาท และขาดทุนจากการตัดภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ไม่สามารถขอคืนได้จำนวน 23 ล้านบาท

9 เดือน ปี 2568: บริษัทฯ มีรายได้รวม 18,405 ล้านบาท (9 เดือน ปี 2567: 17,769 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 636 ล้านบาท (หรือ 4%) โดยสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อรายได้จากธุรกิจอาหารอยู่ที่ 47% : 53% (สำหรับ 9 เดือน ปี 2567: 45% : 55%) 

ขณะที่กำไรขั้นต้นรวม 10,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 560 ล้านบาท หรือ 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (9 เดือน ปี 2567: 10,106 ล้านบาท) โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 60% ของรายได้ (ไม่รวมรายได้อื่น) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบกับปีก่อน (9 เดือน ปี 2567: 59%) 

บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 5,005 ล้านบาท (9 เดือน ปี 2567: 4,620 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 385 ล้านบาท (หรือ 8%) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ต่อรายได้รวม (%EBITDA) 27% เพิ่มขึ้นเทียบปีก่อน (9 เดือน ปี 2567: 26%) 

บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ (EBIT) จำนวน 2,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167 ล้านบาท เทียบปีก่อน (หรือเติบโต 8%) ทั้งนี้มีกำไรสุทธิจำนวน 1,143 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 4% เทียบปีก่อน (9 เดือน ปี 2567: 1,195 ล้านบาท) 

สำหรับผลการดำเนินงานตามที่รายงาน (รวมผลของรายการที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก) 9 เดือน ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 4,880 ล้านบาท (9 เดือน ปี 2567: 4,607 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 273 ล้านบาท (หรือเพิ่มขึ้น 6%) เทียบ 9 เดือน ปี 2567 

โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ต่อรายได้รวม (%EBITDA) 27% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (9 เดือน ปี 2567: 26%) และมีกำไรสุทธิ 1,018 ล้านบาท (9 เดือน ปี 2567: 1,086 ล้านบาท) ลดลง 6% เทียบปีก่อน

แนวโน้มธุรกิจปี 2568

• ธุรกิจโรงแรม: ภาพรวมปี 2568 คาดการณ์อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (รวมโรงแรมร่วมทุน) 70% - 73% รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) อยู่ที่ 4,200 – 4,500 บาท และรายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) คาดว่าจะเติบโตประมาณ 7% - 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน 

โดยปัจจัยส่งเสริมการเติบโตที่สำคัญ ได้แก่ การเติบโตของรายได้โรงแรมในประเทศไทยโดยเฉพาะในต่างจังหวัด การรับรู้รายได้เต็มปีเป็นปีแรกจากโรงแรมที่มีการปรับปรุงครั้งใหญ่คือ โรงแรมเซ็นทารา กะรน ภูเก็ต และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 และผลการดำเนินงานเต็มปีแรกของโรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ รวมถึงผลการดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากงาน World EXPO 2025 ในช่วงเมษายน – ตุลาคม 2568

• ธุรกิจอาหาร: ในปี 2568 บริษัทฯ ประมาณการอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Same-Store-Sales: SSS) ของทุกแบรนด์ (รวมกิจการร่วมค้า) 1% - 2% เทียบปีก่อน และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (Total-System-Sales: TSS) อยู่ในช่วง 8% - 9% เทียบปีก่อน สำหรับการขยายสาขา ณ สิ้นปี 2568 คาดว่าจำนวนสาขาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 50 – 60 สาขา (ประมาณ 3% - 4%) เทียบสิ้นปี 2567 จากการมุ่งเน้นการขยายสาขาในแบรนด์ที่มีอัตราทำกำไรสูงเป็นหลัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง