DITTO ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิพุ่ง 28% เตรียมขายโทเคนดิจิทัล ไม่เกิน 480 ล้านบาท

DITTO ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิพุ่ง 28% เตรียมขายโทเคนดิจิทัล ไม่เกิน 480 ล้านบาท
#ทันหุ้น #SET #DITTO บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) DITTO ในไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ของทั้งรายได้และกำไร สะท้อนศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งและสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิรวม 176.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.61 ล้านบาท หรือ 28% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการ 926.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 326.66 ล้านบาท หรือ 54% และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า 15.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.18 ล้านบาท หรือ 25%
สำหรับงวด 9 เดือน ปี พ.ศ. 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 491.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.28 ล้านบาท หรือ 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน แสดงถึงความสามารถในการรักษาการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตัวของธุรกิจวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีในโครงการของหน่วยงานราชการ และธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีการขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริการรวม 2,431.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 602.80 ล้านบาท หรือ 33% ขณะเดียวกันบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 51.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.03 ล้านบาท หรือ 59% สะท้อนความแข็งแกร่งด้านการบริหารเงินลงทุนและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ
ในงวด 9 เดือน ปี พ.ศ. 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic EPS) 0.71 บาท เพิ่มขึ้น 0.17 บาท จากปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) 27% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) 20% สะท้อนความสามารถในการดำเนินธุรกิจและการรักษาการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจระบบบริหารจัดการเอกสาร ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และธุรกิจวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับหน่วยงานราชการ
ความคืบหน้าโครงการที่สำคัญ
• บริษัทย่อยเข้าร่วมโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมพื้นที่ในการพัฒนาทั้งสิ้น 175,196.05 ไร่ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต โดยได้รับจัดสรรพื้นที่ 10,958.76 ไร่ ระยะเวลาดำเนินโครงการ 30 ปี และในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2566 ได้เข้าร่วมเป็นผู้พัฒนาโครงการในพื้นที่เพิ่มเติม 9,399.27 ไร่ รวมยอดพัฒนา 20,358.03 ไร่
- โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิตสำหรับชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2566 ครอบคลุม 93 ชุมชน รวมพื้นที่ 154,838.02 ไร่ ระยะเวลาดำเนินโครงการ 30 ปี
โครงการดังกล่าวนอกจากสร้างประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตแล้ว ยังช่วยพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มการดูดซับคาร์บอน และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งทะเลของไทย
• บริษัทย่อยอยู่ระหว่างเตรียมออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) มูลค่าไม่เกิน 480 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการปลูกป่าชายเลน เช่น ค่าปลูกกล้าไม้ ค่าบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ ค่าใช้จ่ายธุรกรรม ชำระคืนเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุน (ถ้ามี) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ผู้ถือโทเคนจะมีสิทธิได้รับผลตอบแทนจากการขายคาร์บอนเครดิตอ้างอิงสุทธิ ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
