"ถีบกั้ง" วิถีประมงโบราณของชาวสตูล
ภาพที่เห็นว่ามีคนกำลังสไลด์ตัวโดยใช้ขาถีบโคลน ขณะที่ด้านหน้าก็มีลัง ไว้สำหรับให้ยึดแขน นี่แหล่ะที่ชาวบ้านตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เรียกว่า "ถีบกั้ง" เป็นการทำประมงวิถีโบราณ
โดยทุกเช้าตรู่ในช่วงแล้งน้ำลด ชาวบ้านตำมะลัง จะนำเรือลำน้อยออกมาลอยลำ เพื่อออกมาลุยโคลนถีบกั้งกันอย่างคึกคัก
ซึ่งวิธีการถีบกั้งนั้น จะต้องสไลด์ตัวบนโคลน คอยสังเกตหารูที่มีมูล 2 รู ที่อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งเป็นรูเข้า และรูออกของกั้งที่อาศัยอยู่ จากนั้นจะใช้มือกวาดปากรูให้กว้าง และใช้เท้าถีบอีกรู เพื่อให้กั้งผุดขึ้นมาอีกรู จะทำให้ง่ายต่อการจับตัว ซึ่งการจับก็ต้องใช้ความชำนาญเพราะอาจถูกกั้งดีดใส่จนเกิดบาดแผลได้
ส่วนเทคนิคการถีบกั้ง นายสมมารถ ปูหัด ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าต้องไม่หาตามหลังเพื่อนมากเกินไป พร้อมใส่รองเท้ายางป้องกันไม่ให้ถูกบาดจากเปลือกหอยที่แหลมคม
สำหรับกั้ง ที่หาได้จะมีทั้งกั้งแก้ว และกั้งเขียว โดยเฉพาะกั้งเขียวจะมีราคาดีถึงกิโลกรัมละ 1,600 บาท แล้วแต่ขนาด บางวันได้มากบางวันก็ได้น้อย เนื่องจากระดับน้ำที่ขึ้นลง ทำให้หาได้เพียงวันละประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนช่วงที่ออกหาถีบกั้งนั้นคือเดือนมกราคม ถึงมิถุนายน
สำหรับหมู่บ้านตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล เป็นหมู่บ้านชายฝั่งทะเลที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพในการทำประมงพื้นบ้าน เพราะที่นี่มีกุ้ง หอย ปูปลาและกั้งที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งทำกินของจังหวัดสตูล ที่มีอาหารทะเลสมบูรณ์ควบคู่กับการทำประมงแบบอนุรักษ์
ภาพจาก : TNNonline