รีเซต

ไขปริศนา ป่วยโควิดรุนแรง-เสียชีวิตสูง จากภาวะขาดวิตามินดี

ไขปริศนา ป่วยโควิดรุนแรง-เสียชีวิตสูง จากภาวะขาดวิตามินดี
TNN ช่อง16
15 กรกฎาคม 2564 ( 11:00 )
188

ข่าววันนี้ คณะนักวิจัยชาวอิสราเอล เผย ภาวะขาดวิตามินดีก่อนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น เชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของอาการป่วยรุนแรงและความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ซึ่งการศึกษานี้ช่วยไขปริศนาการพบผู้ป่วยหนักจำนวนมาก ล่าสุดยังมีผลการรักษาด้วยวิตามินดีเสริมกับยาอื่น พบว่า ช่วยผู้ป่วยส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นเกินกว่า 50% ดังนั้นแนะว่า ทุกคนควรเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ด้วยวิตามินดีทั้งการกินและการรับแสงแดด 

 

 

มหาวิทยาลัย บาร์ อีลัน (BIU) ของอิสราเอล เปิดเผยการค้นพบของคณะนักวิจัยชาวอิสราเอล  ว่า ภาวะขาดวิตามินดีก่อนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น เชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของอาการป่วยรุนแรงและความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคโควิด-19

 

 การศึกษาดังกล่าวจัดทำโดยมหาวิทยาลัยและศูนย์การแพทย์กาลิลี (GMC) โดยได้ประเมินความสัมพันธ์ของวิตามินดีในร่างกายที่ระดับต่ำก่อนติดเชื้อและความรุนแรงของโรคโควิด-19 โดยคณะนักวิจัยได้ทำการตรวจวัดระดับวิตามินดีในร่างกายของผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในศูนย์การแพทย์ก่อนผลตรวจโรคเป็นบวกในระยะเวลา 14-730 วัน

 

และเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยหรือปานกลางแล้วพบว่า ผู้ที่มีอาการหนักมักมีภาวะขาดวิตามินดีอย่างรุนแรงก่อนติดเชื้อ โดยอยู่ที่ต่ำกว่า 20 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ถือเป็นภาวะขาดวิตามินดี ขณะที่ภาวะพร่องวิตามินดี 20-30 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ส่วนระดับปกติ จะมากกว่า 30 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร การค้นพบนี้ถือเป็นการไขปริศนาที่ยังค้างคาว่า "ทำไมผู้ป่วยโรคโควิด-19 บางรายมีอาการป่วยหนักกว่ารายอื่นๆ"

 

เว็บไซต์ vdmeta.com ได้เผยข้อมูลการศึกษาทางสถิติจากการรวบรวมข้อมูล 88 ชิ้นงาน พบว่า 93% เกี่ยวกับการรักษาด้วยวิตามินดี มี 29 ชิ้นงานมีผลในเชิงบวก และมีผลการศึกษา 59 เรื่องที่แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้น 56% สามารถใช้เป็นยาเสริมการรักษาที่มีประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ติดเชื้อโควิด และยังช่วยปรับปรุงภูมิคุ้มกัน

 

การใช้วิตามินดียังแสดงให้เห็นว่าพายุไซโตไคน์ลดลงด้วย ทั้งนี้ ไซโตไคน์เป็นสารที่สร้างและหลั่งโดยเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันไซโตไคน์หลายชนิดมีก่อการอักเสบ และโจมตีเซลล์ที่ดี  

  

อย่างไรก็ตามผลการศึกษายังมีปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่นความล่าช้าในการรักษา จำนวนผู้ป่วย ตัวแปร รูปแบบการรักษา การรับประทานอาหาร การให้รับแสงแดด และรูปแบบของวิตามินดีที่ใช้ มีทั้งวิตามินดี 2 และวิตามินดี 3   

 

ปัจจุบันพบว่าคนกรุงเทพฯ และพนักงานออฟฟิศ 1 ใน 3 มีภาวะพร่องวิตามินดี (Vitamin D) หรือมีระดับวิตามินดีในปริมาณที่ต่ำ เนื่องจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดด ทำให้ผิวหนังไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เท่าที่ควร ดังนั้นการเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวิตามินดี ประกอบดัวย

 

1.ทำกิจกรรมที่ได้รับแสงแดด อย่างน้อย 15 นาที จำนวน 2-4 ครั้ง/สัปดาห์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แต่ละคนต้องการแสงแดดในปริมาณที่ต่างกัน โดยคนผิวสีอ่อน รับแดดช่วงฤดูร้อนเพียงวันละ 20 นาที ส่วนคนผิวสีเข้ม อาจต้องใช้เวลารับแดดนานขึ้น 6 เท่า เพื่อผลิตวิตามินดีในปริมาณเท่ากัน แต่ขณะเดียวกันสีผิวที่เข้มกว่าก็มีเกราะป้องกันปัญหาผิวไหม้ได้ดีกว่า 

2.รับประทานอาหารที่ให้วิตามินดีสูง เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน น้ำมันตับปลา ไข่แดง นม มาร์การีน ซีเรียล เป็นต้น 

3.อาหารเสริมวิตามินดี ถูกนำมาสกัด ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม   

 

ด้าน Bonnie Henry แพทย์ชาวแคนาดา แนะนำเพิ่มว่าภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไปสวนสาธารณะ ชายหาด เป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและบริโภคอาหารทอด เผ็ด หวาน เครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง