รีเซต

วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์: กต.ระบุยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากกัมพูชา ด้านครอบครัวส่งตัวแทนแจ้งความตำรวจพนมเปญ

วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์: กต.ระบุยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากกัมพูชา ด้านครอบครัวส่งตัวแทนแจ้งความตำรวจพนมเปญ
บีบีซี ไทย
2 กรกฎาคม 2563 ( 12:36 )
101
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์: กต.ระบุยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากกัมพูชา ด้านครอบครัวส่งตัวแทนแจ้งความตำรวจพนมเปญ

ครอบครัว "สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" จ้างทนายความในกัมพูชาดำเนินการแทนครอบครัวในการแจ้งความกับตำรวจท้องที่กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. นับเป็นความพยายามล่าสุดในการตามหาตัวลูกชายคนเดียวของบ้าน แม้ความหวังว่าเขายังมีชีวิตอยู่จะริบหรี่ลงทุกขณะ

ขณะที่วันนี้ (2 ก.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เผยแพร่จดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศที่ตอบกลับ กสม. กรณีขอให้แสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องการสูญหายของนายวันเฉลิม โดย กต.ระบุว่าสถานทูตไทยในกัมพูชาได้ติดตามกรณีนี้เป็นระยะ แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด

กต.ให้ข้อมูลด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้นำส่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุให้แก่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

นายวันเฉลิมเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 37 ปี ซึ่งปฏิเสธการไปรายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหลังรัฐประหาร 2557 และลี้ภัยออกนอกประเทศ

น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่าหลังจากปรึกษาหารือกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทางครอบครัวได้จ้างทนายความชาวกัมพูชาเพื่อเดินเรื่องแจ้งความกับตำรวจขอให้สืบสวนการหายตัวไปของวันเฉลิม ซึ่งคาดว่าจะแจ้งความภายในสัปดาห์นี้

น.ส.สิตานันกล่าวกับบีบีซีไทยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ช่วงที่ผ่านมาเธอยังหวังว่าน้องจะมีชีวิตรอด แต่ถ้าหายไปนานเกิน 1 เดือน โอกาสที่เขาจะมีชีวิตรอดคงเหลือน้อยเต็มที

เธอเล่าว่า ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้ติดต่อทนายชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งค่อนข้างเป็นที่รู้จักในกัมพูชา ให้เดินเรื่องแจ้งความ แต่หลังจากทนายคนดังกล่าวรู้ว่าเป็นกรณีของวันเฉลิม ผู้ลี้ภัยชาวไทยที่กำลังเป็นข่าว เขาก็ปฏิเสธไม่รับงาน

ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ครอบครัวของวันเฉลิมบอกกับบีบีซีไทยว่า หลังจากที่ครอบครัวได้ยื่นเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทย รวมทั้งสำนักงานอัยการสูงสุดและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว ก็มีความจำเป็นที่จะต้องไปตั้งเรื่องเพื่อให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการในกัมพูชา เพื่อเป็นช่องทางให้เกิดการประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่ง

ส่วนเหตุที่ต้องแต่งตั้งทนายเพราะครอบครัวไม่สามารถเดินทางไปเองได้เนื่องจากอยู่ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19

"เราไปแจ้งความที่กัมพูชาเพราะพยานหลักฐานเท่าที่เห็นบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในกัมพูชา ดังนั้นการตั้งเรื่องในฝั่งกัมพูชาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำควบคู่ไปกับการเดินเรื่องในฝั่งไทยที่เราได้ตั้งเรื่องไว้แล้วกับสำนักงานอัยการสูงสุดและดีเอสไอ เพราะพนักงานสอบสวนของไทยก็ต้องประสานงานไปทางฝั่งรัฐบาลกัมพูชาอยู่ดี การแจ้งความที่กัมพูชาจะช่วยสร้างความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวน" ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวโดยขอสงวนชื่อ

เปิดหนังสือ กต. ตอบกลับ กสม.กรณีวันเฉลิม

เวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (2 ก.ค.) เฟซบุ๊ก กสม. ได้เผยแพร่เนื้อหาในจดหมายที่ กต.ตอบกลับหนังสือของ กสม. ลงวันที่ 8 มิ.ย.ที่ขอให้ กต. แสวงหาข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและทำความจริงให้ปรากฏ กรณีนายวันเฉลิมหายไปจากหน้าอาคารที่พักในกรุงพนมเปญ

นายวัส ติงสมิตร ประธาน กสม.เปิดเผยว่าได้รับหนังสือตอบกลับจาก กต. รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการของ กต. ดังนี้

1. ทันทีที่ได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่านายวันเฉลิมถูกลักพาตัวในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. ในวันที่ 5 มิ.ย. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามตัวนายวันเฉลิม

2. วันที่ 9 มิ.ย. น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ (พี่สาวของนายวันเฉลิม) และตัวแทนของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามและให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิม รวมทั้งได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนายวันเฉลิมเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ

3. วันที่ 10 มิ.ย. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิม โดยได้แจ้งการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ตามข้อ 1. และข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้

  • รัฐมนตรีฯ ไม่เคยได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่านายวันเฉลิมเป็นบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อประเทศในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ
  • รัฐมนตรีฯ ได้ตอบคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นบทบาทของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (Office of the United Nation High Commissioner for Refugees: UNHCR) ว่า นายวันเฉลิมไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยตามนิยามของ UNHCR ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตรวจสอบแล้วพบว่า สภาพความเป็นอยู่และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ของนายวันเฉลิมไม่ได้เข้าข่ายการเป็นผู้ลี้ภัยของ UNHCR โดยเชื่อว่า UNHCR รับทราบและติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี UNHCR ต้องรอการชี้แจงและข้อมูลจากทางการกัมพูชาเช่นเดียวกัน

4. วันที่ 11 มิ.ย. เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้เข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา (รัฐมนตรีช่วยว่าการคนที่อาวุโสที่สุด) ซึ่งได้มอบหนังสือให้แก่เอกอัครราชทูตฯ โดยมีสาระสำคัญว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า

  • นายวันเฉลิมมีประวัติการเดินทางเข้า - ออกกัมพูชาหลายครั้งระหว่างปี 2557 - 2558
  • ครั้งล่าสุดเดินทางเข้ามากัมพูชาเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2558 และได้รับการต่ออายุการตรวจลงตราถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2560
  • ทางการกัมพูชายังไม่สามารถยืนยันเหตุการณ์นี้ได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง

5. วันที่ 12 มิ.ย. กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือตอบกลับหนังสือร้องเรียนของ น.ส.สิตานัน แจ้งผลการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศตามข้อ 4

6. วันที่ 12 มิ.ย. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้นำส่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ตามข้อมูลในหนังสือของนางสาวสิตานันท์ ให้แก่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป

7. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้ติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางการกัมพูชาเป็นระยะ ๆ จนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด

รอลุ้นดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

สำหรับความคืบหน้าการร้องเรียนให้สอบสวนกรณีวันเฉลิมหายตัว ขณะนี้ทางครอบครัวกำลังรอผลการตัดสินใจของดีเอสไอว่าจะรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดย น.ส.สิตานันและตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ยื่นหนังสือต่อดีเอสไอ ขอให้พิจารณากรณีนายวันเฉลิมถูกบังคับให้สูญหายในกัมพูชาเป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.

ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ ผู้รับเรื่องชี้แจงกระบวนการดำเนินงานของดีเอสไอว่า กองบริหารคดีพิเศษจะพิจารณาและทำความเห็นเสนอต่ออธิบดีดีเอสไอภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 10 ก.ค. หากรับเป็นคดีพิเศษ อธิบดีก็จะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนหาพยานหลักฐานต่อ โดยต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน แล้วจึงส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผอ.กองบริหารคดีพิเศษอธิบายเพิ่มเติมว่า ในกรณีของนายวันเฉลิม ดีเอสไอจะต้องส่งต่อให้สำนักงานอัยการสูงสุดเนื่องจากเป็นคดีที่เกิดนอกราชอาณาจักร และเป็นความผิดต่อชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพ ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนในคดีลักษณะนี้

ร้องเรียนที่ไหนบ้าง

นับตั้งแต่นายวันเฉลิมหายตัวไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. น.ส.สิตานันได้เดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ ได้แก่

  • สำนักงานอัยการสูงสุด

น.ส.สิตานันยื่นหนังสือร้องทุกข์และกล่าวโทษต่ออัยการสูงสุด ในฐานะพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจสอบสวนความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำการนอกราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ประกอบมาตรา 20

  • กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม

ยื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการภายใต้คณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหาย ซึ่งมีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ถูกบังคับให้สูญหาย

  • คณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจขององค์การสหประชาชาติ

หลังจากนายวันเฉลิมหายตัวไป ศูนย์ทนายฯ ได้ยื่นเรื่องต่อคณะทำงานชุดนี้เพื่อให้สอบสวน ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้า แต่ทราบเบื้องต้นว่าคณะทำงานฯ ได้กำหนดกรอบเวลาให้ทางกัมพูชาดำเนินการไว้แล้ว

  • คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หนึ่งในข้อเรียกร้องคือขอให้ กสม. ตรวจสอบว่าทางการไทยได้ขอให้ทางการกัมพูชาส่งตัวนายวันเฉลิมกลับมาดำเนินคดีด้วยข้อหาใดที่ประเทศไทยหรือไม่ ด้วยวิธีการใด หรือทางการกัมพูชาได้ส่งตัวตัวนายวันเฉลิมกลับประเทศไทยหรือไม่

  • คณะกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร

น.ส.สิตานันยื่นหนังสือต่อนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้คณะกรรมาธิการฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง