NEET ไลฟ์สไตล์ใหม่ล่าสุด ไม่อยากทำอะไรเลย มันคืออะไร?

◾️◾️◾️
🔴 ต้นกำเนิดจากสหราชอาณาจักร
NEET เป็นคำที่มีต้นกำเนิดจากสหราชอาณาจักรในช่วงทศวรรษ 1980 โดยนักวิจัยใช้คำนี้เพื่อระบุเยาวชนที่ไม่อยู่ในระบบการศึกษา ไม่อยู่ในระบบการจ้างงาน หรือการฝึกอาชีพ
ต่อมาในปี 2010 คณะกรรมาธิการด้านการจ้างงานของสหภาพยุโรปนำคำนี้มาใช้เป็นดัชนีชี้วัดแนวโน้ม ซึ่งทำให้คำว่า NEET กลายเป็นส่วนหนึ่งของการถกเถียงสาธารณะ
กลุ่ม NEET ครอบคลุมทั้งคนที่กำลังหางานแต่ยังไม่เจอ รวมถึงคนที่เลิกหางานไปแล้ว
ตามข้อมูลจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) 21.7% ของเยาวชนอายุ 15–24 ปีทั่วโลกในปี 2023 ถูกจัดว่าเป็น NEET
NEET ย่อมาจาก Not in Employment, Education or Training หรือ ไม่มีงานทำ ไม่เรียนหนังสือ ไม่ฝึกอบรม
◾️◾️◾️
🔴 ทำไมเยาวชนจึงกลายเป็น NEET?
มีหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ข้อจำกัดทางเพศในการเข้าถึงการศึกษา ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตในเมือง ความกดดันจากการทำงาน ไปจนถึงปัญหาสุขภาพจิต
เว็บไซต์ Vice สัมภาษณ์เยาวชน NEET หลายคน ผู้ให้สัมภาษณ์คนหนึ่งบอกว่า”หลังเรียนจบมัธยม เริ่มฝึกงานที่คลังสินค้าของบริษัทผลิตรถยนต์ แต่งานแย่มากจนต้องลาออก เพราะไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์เลย แต่ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นสิ่งของที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ที่หากวันหนึ่งใช้งานไม่ได้ เขาก็พร้อมจะเปลี่ยนได้ตลอดเวลา”
รายงานในปี 2024 จากสหราชอาณาจักรระบุว่า มีเยาวชนจำนวนมากที่ อยากทำงานแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเหตุผลทางสุขภาพหรือการเงิน ซึ่งเป็นการโต้แย้งมุมมองที่ว่าเยาวชนที่ไม่มีงานทำนั้นล้วนเป็นคน “ขี้เกียจ” หรือ “ไม่อยากทำงาน”
แต่ 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม NEET ระบุว่า สาเหตุที่พวกเขาไม่ทำงาน ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่เป็นเพราะปัญหาสุขภาพจิตทำให้ไม่สามารถทำงานได้ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 21% บอกว่าสุขภาพจิตแย่ลงในช่วงปีที่ผ่านมา
ปัญหาทางการเงิน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง การที่คนรุ่นใหม่ ไม่อยากเรียนหนังสือ เพราะการศึกษาอาจมีค่าใช้จ่ายสูงเกินเอื้อม และถึงแม้เรียนจบแล้ว บางคนก็ยังเข้าไม่ถึงการทำงานเพราะค่าครองชีพในเมืองสูง
◾️◾️◾️
🔴 ประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง อัตรา NEET สูง
ตามข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า แอฟริกาใต้ ตุรกี และโคลอมเบีย มีอัตรา NEET สูงสุด ขณะที่เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ มีอัตรา NEET ต่ำสุด
กรณีของแอฟริกาใต้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก โดยในปี 2022 ประเทศมี เยาวชน NEET สูงถึง 42% อัตราการว่างงานโดยรวมเกือบ 30% รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยปีละเพียง 9,338 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3 แสนบาท ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งในสามของค่าเฉลี่ยโลก
กลุ่มเยาวชน NEET ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยากจน โดยเฉพาะชุมชนคนผิวดำในเขตเมืองและชนบท
รัฐบาลแอฟริกาใต้ระบุว่า เยาวชน NEET ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือต่ำกว่า จึงจำเป็นต้องมีโครงการฝึกอาชีพและการศึกษาทางเลือก ซึ่งจำนวนเยาวชน NEET ที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ทางสังคมที่อาจนำไปสู่ความไม่สงบ และต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน”
มาที่เนเธอร์แลนด์ ทำไมเนเธอร์แลนด์ถึงมีอัตรา NEET ต่ำ OECD ระบุว่า อัตรา NEET ของเนเธอร์แลนด์อยู่ที่เพียง 4.5% เท่านั้น ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐด้านการศึกษา วัฒนธรรม สังคม และแรงงาน มีส่วนช่วยลดอัตรา NEET ลง 1% ระหว่างปี 2014-2020 อีกปัจจัยสำคัญคือ ระบบการศึกษาของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเน้นการคัดแยกนักเรียนตามศักยภาพและเตรียมทักษะตรงกับตลาดแรงงาน แต่ระบบนี้ก็มีข้อจำกัด คือ หากนักเรียนไม่ได้งานตามสายที่เรียนมา จะถูกมองว่า “ไม่เหมาะสมกับตลาดแรงงาน” ทำให้เยาวชนผู้อพยพอาจเข้าไม่ถึงโอกาสเช่นเดียวกัน
◾️◾️◾️
🔴 เกาหลีใต้มีหนุ่มสาว 590,000 คนไม่ทำงานและไม่หางาน
รายงานล่าสุดจากสำนักงานข้อมูลการจ้างงานเกาหลี เปิดเผยว่า ในปี 2024 มีหนุ่มสาวเกาหลีอายุระหว่าง 15-34 ปี จำนวน 590,000 คน ที่อยู่ในสถานะ “ไม่ทำงานและไม่หางาน” (Economically Inactive) เพิ่มขึ้นถึง 197,000 คน เมื่อเทียบกับปี 2019
กลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้ที่หยุดหางาน ภายใน 1-3 ปีหลังจากสำเร็จการฝึกอบรมอาชีพหรือรับสิทธิประโยชน์เพื่อหางาน โดยผลสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 3,189 คน ที่ตอบว่า “หยุดพัก” จากการหางานในรอบปีที่ผ่านมา พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขาว่างงานนานเกือบ 2 ปี เหตุผลหลักคือ "ไม่อยากทำงาน"
ช่วงเวลาการหยุดหางานเฉลี่ยอยู่ที่ 22.7 เดือน โดยเหตุผลสำคัญ คือ ไม่อยากหางานเลย 38.1% มุ่งเน้นการเรียนหรือพัฒนาตนเอง 35% ภาวะหมดไฟ (burnout) 27.2% ปัญหาทางจิตใจ 25%
กลุ่มผู้จบมหาวิทยาลัยที่ไม่หางาน ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
กลุ่มอายุน้อยจาก 19.4% เพิ่มเป็น 23.7%, กลุ่มอายุมากจาก 54.3% เพิ่มเป็น 58.8%
สาเหตุหนึ่งมาจาก “งานไม่ตรงกับวุฒิการศึกษา” รายงานระบุว่า เกิดภาวะไม่ตรงกันระหว่างทักษะกับงาน (Job Mismatch) เพราะงานที่เหมาะสมกับระดับการศึกษาของคนรุ่นใหม่มีน้อย
◾️◾️◾️
🔴 การมีไลฟ์สไตล์แบบ NEET ส่งผลกระทบอะไรต่อสังคมและต่อโลกบ้าง?
อัตรา NEET ที่สูงส่งผลกระทบหลายด้าน อาจสะท้อนความเหลื่อมล้ำและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ในบางประเทศกำลังพัฒนา หากมีเยาวชนว่างงานมากเกินไป ก็มีความเสี่ยงที่เยาวชนกลุ่มนี้จะออกมาก่อความไม่สงบและการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้
ส่วนในระดับบุคคล 50% ของเยาวชน NEET ในสหราชอาณาจักรรู้สึก “สิ้นหวังกับอนาคต" งานวิจัยพบว่าการเป็น NEET เชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล การใช้สารเสพติด และความคิดฆ่าตัวตาย
โจนาธาน ทาวน์เซนด์ ผู้บริหารมูลนิธิ Prince’s Trust กล่าวไว้ในรายงานปี 2024 ว่า เยาวชนกำลังติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ สุขภาพจิตที่ย่ำแย่ส่งผลต่อการทำงาน และการว่างงานก็ยิ่งทำให้สุขภาพจิตแย่ลง เป็นกับดักที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
