รีเซต

Bitkub เปิดท็อป 3 เหรียญดิจิทัลยอดนิยมสัปดาห์นี้ Bitcoin ยังนำโด่ง

Bitkub เปิดท็อป 3 เหรียญดิจิทัลยอดนิยมสัปดาห์นี้ Bitcoin ยังนำโด่ง
TNN Wealth
3 พฤศจิกายน 2564 ( 16:18 )
271
Bitkub เปิดท็อป 3 เหรียญดิจิทัลยอดนิยมสัปดาห์นี้ Bitcoin ยังนำโด่ง

Bitkub (บิทคับ) เปิดบทวิเคราะห์ตลาดคริปโทเคอเรนซี่ และ 3 อันดับเหรียญดิจิทัลที่คาดว่านักลงทุนจะนิยมเข้าซื้อขายมากที่สุด ในรอบสัปดาห์นี้


วันนี้ (3 พ.ย. 64) บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด โดย Bitkub Research ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลประจำสัปดาห์ ( Weekly Highlight 1 - 7 November 2021)


นำโดย BTC/USDT โดย Bitcoin ได้สร้างกราฟรูปแบบธง แต่ขาขึ้นไม่สามารถผลักดันราคาให้ อยู่เหนือธงได้ เมื่อราคาไม่สามารถทําลายแนวต้านได้ จึงมีการขายในระยะสั้น และดึงราคาไปที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ที่ $59,679 (~1,987,310 บาท)

 

หากขาลงดึงราคาตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ราคา BTC อาจตกลงไปที่แนวรับ และนี่เป็นจุดสําคัญ สําหรับขาขึ้นที่จะต้องตั้งรับ เพราะการลดตํ่ากว่าจุดนี้อาจส่งผลให้ราคาลงไปยังแนวรับถัดไปที่ $52,920 (~1,762,236 บาท)


และหากราคาดีดตัวขึ้นจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ขาขึ้นจะพยายามดันราคาให้อยู่เหนือธง หากสําเร็จราคาอาจทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $67,000 (~2,231,100 บาท) แล้วพุ่งขึ้นสู่เป้าหมายถัดไปที่ $89,476.12 (~2,979,554 บาท)

 

เหรียญต่อมา คือ ETH/USDT ที่ราคา Ethereum ทะลุระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $4,375 (~145,687 บาท) เมื่อวันที่ 29 ต.ค. แต่ราคาไม่สามารถขยับขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากขาลงดึงราคากลับมาตํ่ากว่าแนวต้าวันที่ 30 ต.ค. บ่งชี้ว่ายังมีการขายในระดับที่สูงขึ้น โดย ETH อาจตกลงไปที่ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ที่ $4,010 (~133,533 บาท) ซึ่งเป็นแนวรับสําคัญที่ขาขึ้นต้องป้องกัน หากราคาดีดตัวจากแนวรับนี้ ผู้ซื้อจะพยายามดันราคาให้อยู่เหนือ $4,460.47 (~148,533 บาท) หากเป็นเช่นนั้น ราคาอาจมีโอกาสขึ้นไปสู่ระดับทางจิตวิทยาที่ $5,000 (~166,500 บาท)

 

ในทางตรงกันข้าม หากราคาหลุดตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) อาจส่งผลให้ราคาลดลงไปที่ $3,888 (~129,470 บาท) แต่หากราคาดีดตัวขึ้นจากระดับนี้ ราคาอาจแกว่งอยู่ในช่วงนี้ประมาณสองถึงสามวัน ขาลงจะต้องดึงและรักษาราคาที่ตํ่ากว่า $3,888(~129,470 บาท) เพื่อให้ได้เปรียบ

 

และเหรียญที่สาม BNB/USDT ราคาของ Binance Coin (BNB) ทะลุแนวต้านที่ $518.90 (~17,279 บาท) เมื่อวันที่ 29 ต.ค. แต่ขาขึ้นไม่สามารถผลักดันราคาให้สูงขึ้นกว่านี้ได้ แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแอเมื่อราคาสูงขึ้น

 

ขาลงได้ดึงราคากลับมาตํ่ากว่า $518.90 (~17,279 บาท) หาก BNB หากหลุดตํ่ากว่านี้ ราคาอาจร่วงไปยังแนวรับทางจิตวิทยาที่ $500 (~16,650 บาท)และที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ที่ $480 (~15,984 บาท) ซึ่งเป็นจุดสําคัญที่ขาขึ้นต้องปกป้อง หากราคาดีดตัวขึ้นจาก เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) แสดงว่าความเชื่อมั่นยังป็นบวก และมีแรงซื้อเมื่อราคาลดลง ขาขึ้นจะพยายามกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งโดยผลักดันราคาให้อยู่เหนือแนวต้าน $518.90 (~17,279บาท) ถึง $540.50 (~17,998 บาท)

 

ในทางกลับกัน หากราคาหลุดตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) การปรับฐานอาจลึกขึ้นและราคาอาจลดลงไปที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50) ที่ $431 (~14,352 บาท)

 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในตลาดราคาเหรียญ Crypto ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse อย่าง Decentraland, และ Axie Infinity กําลังเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงหลังจาก Facebook ทําการรีแบรนด์และเปลี่ยนโฟกัสไปที่โลกเสมือนจริงเมื่อวานนี้ ทําให้ราคาเหรียญในกลุ่ม Metaverse เพิ่มสูงขึ้น สังเกตจากราคาเหรียญคริปโทฯที่เน้นด้าน Metaverse หลายโปรเจกต์ได้ปรับตัวขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเหรียญ ที่พุ่งขึ้นแรงที่สุดเป็นโทเคน MANA ของเกม Decentraland ที่พุ่งขึ้นมากกว่า 46% นับตั้งแต่การประกาศ

 

ขณะที่โปรเจกต์เกม Metaverse และ NFT อื่น ๆ ก็มีกําไรเพิ่มขึ้น เช่น Axie Infinity (AXS) เกมบล็อกเชนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 17% ก่อนจะคงที่ ตามมาโดยเหรียญ Enjin โปรเจกต์เกม NFT ก็มีราคาที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 11% โดย Enjin เป็น แพลตฟอร์มเกมที่เล่นเพื่อหารายได้ ซึ่งให้ผู้ใช้สร้างไอเทมในเกมบน Ethereum และโอนย้ายระหว่างเกมของแพลตฟอร์มผ่านสิ่งที่บริษัทเรียกว่า “multiverse”

 

Sandbox (SAND) ซึ่งเป็นเกม Metaverse สไตล์ Minecraft ก็ได้รับอานิสงค์เช่นกัน โดยโทเคน SAND ของเกมเพิ่มขึ้น 23%

 

อ้างอิงตามรายงานผลประกอบการของบริษัท MicroStrategy รายงานว่าได้ซื้อ Bitcoin เพิ่ม 9,000 BTC ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทําให้ยอดสะสมรวมทั้งหมดอยู่ที่ 114,042 BTC หรือราว ๆ 2.3 แสนล้านบาท พร้อมประกาศว่าเป็นบริษัทมหาชนที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในโลกด้วยจํานวนการถือครองมากกว่า 114,000 BTC

 

นาย Michael Saylor CEO ของบริษัทฯ กล่าวว่า MicroStrategy ได้เพิ่มการถือครองBitcoin กว่า 198% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดรวมอยู่ที่ 114,042 BTC และมีราคาซื้อเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ 27,713 ดอลลาร์ คิดเป็นต้นทุนรวม 3.16 พันล้านดอลลาร์ ทําให้ MicroStrategy มีกําไรเพิ่มขึ้นกว่า 128 ล้านดอลลาร์สําหรับไตรมาสนี้ ขณะที่รายรับของ Micostrategy พุ่งเกินตัวเลขประมาณการในอดีต โดยบริษัทได้ โพสต์รายรับที่ 1.86 ดอลลาร์ต่อหุ้นเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น “รายงานรายไตรมาสนี้ได้แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจถึง 66.07% เมื่อเทียบ

 

กับช่วงไตรมาสที่แล้ว ที่คาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ 0.73 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่สามารถทํากําไรได้จริงที่ 1.72 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 135.62% ” Zacks Investment Research กล่าว

 

ก่อนหน้านี้ Saylor ได้เน้นยํ้าถึงจุดยืนที่เขามีต่อ Bitcoin อีกครั้ง โดยได้รีทวีตโพสต์ของตัวเองที่เขียนระบุไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2020 ว่า “คุณไม่ควรขาย Bitcoin ของคุณ”

 

นอกจากนี้ Ardana ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Cardano (ADA) ได้รับเงินลงทุนรอบ Seeding มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์จากกลุ่มนักลงทุนที่นําโดย Three Arrows Capital และ Ascensive Assets ซึ่ง Ardana วางแผนที่จะเปิดขายโทเคน DANA ในรอบ Public sale ในปลายปีนี้ โดยจะ

 

ขายเป็นจํานวน 35.625 ล้านจากทั้งหมดที่ 125 ล้านโทเคนในราคา $0.30 ถึง 0.60 ดอลลาร์ต่อเหรียญ

 

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง ท่านควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้มิได้เป็นการแนะนำให้ซื้อ ขาย ถือครอง หรือกระทำการใด ๆ กับสินทรัพย์ของท่านแต่อย่างใด

 

ข้อมูล : Bitkub.com

 



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง