สังคมไทยกับหลุมพราง "ลงทุนเร็ว รวยไว": บทเรียนจาก "แชร์ลูกโซ่"
ความปรารถนาที่จะมีฐานะมั่งคั่งในเวลาอันสั้น ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยตกเป็นเหยื่อของการลงทุนที่สัญญาผลตอบแทนสูงแต่มีความเสี่ยง ดังเช่นกรณีของ "แชร์ลูกโซ่" ในอดีต ที่ชักชวนผู้คนลงทุนด้วยสัญญาผลตอบแทนที่ดูเกินจริง และล่าสุดกับกรณีของ "ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกับแชร์ลูกโซ่
แชร์ลูกโซ่ในอดีต เช่น แชร์แม่ชม้อย และแชร์แม่มณี เป็นการระดมเงินจากคนใหม่เพื่อนำไปจ่ายผลตอบแทนให้กับคนเก่า ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การล่อลวงด้วยผลตอบแทนที่เกินจริงและให้ได้ในระยะเวลาสั้น ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบเศรษฐกิจและครอบครัวของผู้ที่เกี่ยวข้อง หลายคนสูญเสียเงินและเผชิญกับการล้มละลาย
เพื่อป้องกันและลงโทษพฤติกรรมการฉ้อโกงในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ รัฐบาลไทยได้ออกพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งกำหนดบทลงโทษผู้ที่จัดการหรือมีส่วนร่วมในการระดมเงินที่มีการหลอกลวงประชาชน โดยมีโทษจำคุกและปรับ แต่เนื่องจากปัญหาการบังคับใช้ที่ไม่ทันท่วงที จึงยังคงพบเห็นการฉ้อโกงในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีดิไอคอนกรุ๊ป แม้จะยังไม่มีการสรุปชัดเจน แต่การดำเนินงานก็มีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่หลายประการ เช่นการชักชวนให้สมาชิกใหม่เข้าร่วมและสัญญาผลตอบแทนในระยะสั้น การเน้นสร้างรายได้จากค่าสมัครและค่าธรรมเนียมของสมาชิกใหม่โดยไม่ใช่การขายผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดข้อกังวลว่าอาจกำลังหลอกลวงผู้ลงทุน ซึ่งหากเป็นจริงก็จะเข้าข่ายความผิดตามพระราชกำหนดดังกล่าว
แต่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้คนไทยตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ได้ง่าย เช่นความเหลื่อมล้ำทางสังคม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และการขาดความรู้พื้นฐานทางการเงิน ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นให้หลายคนมองหา "เส้นทางลัด" ไปสู่ความมั่งคั่งและไม่สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ดีพอ
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องมีทั้งมาตรการเชิงรุกและเชิงรับ นอกจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดแล้ว ภาครัฐควรให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนตั้งแต่เยาวชนในระบบการศึกษา ขณะที่สื่อมวลชนควรมีบทบาทรายงานข้อมูลให้ตระหนักถึงความเสี่ยงของการลงทุนแบบหลอกลวง การสร้างภูมิคุ้มกันเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ตกหลุมพราง "ลงทุนเร็ว รวยไว" ซ้ำอีก
บทเรียนสำคัญที่ได้จากแชร์ลูกโซ่และดิไอคอนกรุ๊ป คือการสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนไม่มี "เส้นทางลัด" ต้องพัฒนาความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงทุน ควบคู่กับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในสังคมให้เติบโตอย่างเป็นธรรม เพื่อขจัดปัญหาเชิงโครงสร้างที่ล่อตาล่อใจให้คนหลงเชื่อมายากลหลอกลวง