รีเซต

ลำเชียงไกร ไหลบ่าท่วม 3 หมู่บ้าน ผู้ว่าฯนำทีมค้นหาต้นเหตุ พบสิ่งกีดขวางทำน้ำทะลัก

ลำเชียงไกร ไหลบ่าท่วม 3 หมู่บ้าน ผู้ว่าฯนำทีมค้นหาต้นเหตุ พบสิ่งกีดขวางทำน้ำทะลัก
มติชน
26 พฤษภาคม 2565 ( 08:45 )
48
ลำเชียงไกร ไหลบ่าท่วม 3 หมู่บ้าน ผู้ว่าฯนำทีมค้นหาต้นเหตุ พบสิ่งกีดขวางทำน้ำทะลัก

วันที่ 25 พ.ค.65 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยสมพงษ์ หอมสนิท นายอำเภอโนนสูง นายไพรัตน์ วิทยาอนุมาส นายอำเภอโนนไทย

 

นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อํานวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา นายกฤษฏิ์ พูนเกษม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา และ นายก อบต.จันอัด นายก อบต.ด่านคล้า นายก อบต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ที่ไหลเอ่อจากลำห้วยลำเชียงไกรไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร กว่า 1,000 ไร่ และบ้านเรือนประชาชน ม.1บ้านสำโรง ม.5บ้านด่านติง และ ม.8 บ้านโค้งกะพี้ ต.จันอัด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พร้อมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาและรับมือสถานน้ำในช่วงหน้าฝนที่จะถึงนี้

 

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้เกิดเป็นน้ำฝนตกสะสม จากพื้นที่ อ.ขามทะเลสอ ได้ไหลหลากเข้าพื้นที่บริเวณบึงขี้นาค ต.โคกสูง อ.เมือง และ ต.กำปัง อ.โนนไทย และไหลลงลำเชียงไกร รวมกับปริมาณน้ำที่ไหลมาจาก ลำวังกระทะ ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง

 

 

ทำให้น้ำมวลดังกล่าวได้ไหลมายังพื้นที่ ต.กำปัง อ.โนนไทย ท่วมพื้นที่การเกษตร กว่า 8,000 ไร่ และ บ้านเรือนประชาชน 25 หลังคาเรือน พอไหลผ่านพื้นที่ ต.กำปังแล้ว น้ำก็ได้ไหลต่อมายังพื้นที่ อ.โนนสูงเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร กว่า 1,000 ไร่ และบ้านเรือนประชาชน ใน 3 หมู่บ้าน ของ ต.จันอัด อ.โนนสูง ซึ่งสาเหตุที่น้ำเอ่อออกจากลำห้วยลำเชียงไกรไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.โนนสูงนั้น เกิดจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ ฝาย เก่า ประตูระบายน้ำเก่า ที่กีดขวางทำให้น้ำไม่สามารถไหลไปตามระบบ ในลำห้วยได้ดี กว่าที่ควรเจะเป็น

 

จึงทำให้น้ำได้เอ่อ หรือแตกกระจายออกด้านข้างไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ช่วงที่ผ่านมาฝนอาจจะตกหนัก แต่ตกในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ยังสามารถทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรใน 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอโนนไทย และอำเภอโนนสูง รวมกว่า 10,000 ไร่ ได้ ซึ่งหากถึงช่วงฤดูฝนจริง จะก่อให้เกิดความเสียหายได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน

 

ดังนั้น แนวทางในการป้องกันเฉพาะหน้าได้ให้ทุกพื้นที่แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนตามลำห้วยให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ รวมทั้งสิ่งกีดขวางทางน้ำต่างๆจะต้องเร่งรื้อถอนโดยเร็วเพื่อเปิดทางน้ำรับช่วงฤดูฝนที่จะมาถึง ส่วนตลิ่งพื้นที่ใดพังชำรุดต้องเร่งซ่อมแซมเพื่อไม่ไห้น้ำไหลออกนอกลำห้วย หากไม่รีบดำเนินการแก้ไขกังวลว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะหนักเหมือนปี 2564 ที่ผ่านมา นายวิเชียร กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง