ญี่ปุ่นใช้จรวด H3 ส่งดาวเทียมไดจิ-4 ขึ้นสู่วงโคจรของโลกได้สำเร็จ
วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นใช้จรวด H3 จรวดขนส่งอวกาศที่ถูกใช้งานทำภารกิจหลักของประเทศ ส่งดาวเทียมไดจิ-4 ขึ้นสู่วงโคจรของโลกได้สำเร็จ นับเป็นการปล่อยจรวดครั้งที่ 3 ของจรวดรุ่นนี้ การปล่อยจรวดเกิดขึ้น ณ ฐานปล่อยจรวดศูนย์อวกาศนาเนงาชิมะ จังหวัดคาโงชิมะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น ดาวเทียมไดจิ-4 ทำการแยกตัวออกจากจรวดหลังจากปล่อยตัวประมาณ 17 นาที
สำหรับดาวเทียมไดจิ-4 นับเป็นดาวเทียมรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับใช้ติดตามสภาพอากาศและสำรวจภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยใช้เทคโนโลยีเรดาร์และการเก็บข้อมูลความละเอียดสูง รองรับการตอบสนองภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรวดเร็ว เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ และภูเขาไฟระเบิด
จรวด H3 พัฒนาโดยสำนักงานสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น (JAXA) และมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ จรวดมีความสูงทั้งหมด 63 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 5.27 เมตร บรรทุกดาวเทียมและยานอวกาศน้ำหนัก 4 - 7.9 ตัน ขึ้นสู่วงโคจร SSO และ GTO จรวดแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ขั้นตอน จรวดบูสเตอร์ขั้นตอนแรกใช้เชื้อเพลิงแข็งเอสอาร์บี-3 จรวดท่อนที่ 2 ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวและออกซิเจนเหลว
การปล่อยจรวด H3 ครั้งแรกเมื่อปี 2023 จบลงด้วยความล้มเหลวพร้อมดาวเทียมไดจิ-3 หลังจากทีมงานวิศวกรได้ทำการศึกษาและวางมาตรการป้องกันความปลอดภัยเพิ่มเติม ทำให้การปล่อยจรวดครั้งที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ก็ประสบความสำเร็จ
การส่งดาวเทียมไดจิ-4 ในครั้งนี้ นับเป็นการส่งดาวเทียมขนาดใหญ่ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จเป็นครั้งแรกขององค์การอวกาศญี่ปุ่น นอกจากนี้จรวด H3 ยังถูกวางให้เป็นจรวดหลักที่จะถูกใช้งานแทนจรวด H2A หลังจากจรวด H2A ถูกใช้งานมาแล้ว 50 ภารกิจ โดยองค์การอวกาศญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะใช้จรวด H3 ส่งดาวเทียมและยานอวกาศจำนวน 6 ภารกิจต่อปี
ที่มาของข้อมูล NHK