สวิตเซอร์แลนด์ทำให้เครื่องยนต์เจ็ตใช้พลังงานสะอาด 100% ได้แล้ว
เชื้อเพลิงทดแทนสำหรับอากาศยาน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนที่สำคัญสำหรับการบินพาณิชย์ทั่วโลก ทำให้บริษัทไอเออี เอจี (IAE AG) บริษัทร่วมทุนจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้พัฒนาและทดสอบการนำเชื้อเพลิงแบบ SAF สามารถใช้งานกับเครื่องยนต์เจ็ตแบบ V2500 ซึ่งใช้งานในเครื่องบินโดยสารทั่วโลกได้สำเร็จ
ข้อมูลเครื่องยนต์พลังงาน SAF
เครื่องยนต์เจ็ต V2500 เป็นเครื่องยนต์เจ็ตที่มีกำลังขับ (Thrust) ระหว่าง 110 - 140 กิโลนิวตัน (kN) ติดตั้งกับเครื่องบินโดยสารแอร์บัสในตระกูล เอ 320 (Airbus A320 family) เช่น A319, A320 และ A321ทำความเร็วในการบินอยู่ที่ 829 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงใช้งานในเครื่องบินเจ็ตขนาดเล็กอย่าง Embraer KC-390 และ McDonnell Douglas MD-90 ด้วย ทำให้มีเครื่องยนต์ V2500 ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 7,600 ตัว
โดยปัจจุบัน เครื่องยนต์เจ็ต V2500 อยู่ภายใต้การบริหารและจัดการของบริษัทไอเออี เอจี (IAE AG: International Aero Engines) บริษัทร่วมทุนจากแพรตต์ แอนด์ วิตต์นีย์ (Pratt & Whitney) รวมถึง เจแพน เอโร่ เอ็นจิน คอปอเรชัน (Japanese Aero Engine Corporation) และ เอ็มทียู เอโร เอ็นจินส์ (MTU Aero Engines) จากเยอรมนี ที่ต่างเป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมพัฒนาเครื่องยนต์ V2500 ขึ้นมา
การใช้งานเครื่องยนต์ด้วยพลังงาน SAF
ทางบริษัท IAE AG ได้ใช้เชื้อเพลิง SAF แบบใหม่ที่ชื่อว่า เฮฟา เอสพีเค (HEFA-SPK: Hydroprocessed Esters, Fatty Acids, and Synthetic Paraffinic Kerosine) ซึ่งเป็นการนำน้ำมันและไขมันเหลือใช้จากน้ำมันพืชและขยะมาเป็นส่วนผสมของเชื้อเพลิง ในการทดสอบการทำงานกับเครื่องยนต์ V2500 แทนการใช้เชื้อเพลิงดั่งเดิมทั้งหมด ที่สถานทดสอบของ MTU Aero Engines ในฮานโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี และประสบความสำเร็จด้วยดี
ทาง IAE AG เชื่อว่า การหันมาใช้เชื้อเพลิงแบบ SAF ของเครื่องยนต์เครื่องบิน V2500 จะช่วยให้อากาศยานที่ใช้เครื่องยนต์แบบดังกล่าวทั่วโลกมากกว่า 3,000 ลำ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่าร้อยละ 80 เทียบกับการเดินทางแบบเดิม โดยเชื้อเพลิง SAF แบบใหม่นี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมการบินเข้าใกล้เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 นี้
ข้อมูลจาก Interesting Engineering
ภาพจาก Pratt & Whitney