รีเซต

ฟอร์ดถอดใจจาก EV หลังขายแล้วยอดทรุดในอเมริกา ปีหน้าปรับทัพเปิดตัว F-150 แบบ REEV แทน

ฟอร์ดถอดใจจาก EV หลังขายแล้วยอดทรุดในอเมริกา ปีหน้าปรับทัพเปิดตัว F-150 แบบ REEV แทน
TNN ช่อง16
17 ธันวาคม 2568 ( 14:07 )
7

ฟอร์ด (Ford) ค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เตรียมยุติการผลิต  F-150 Lightning รถกระบะรุ่นเรือธงของบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (BEV) ในสิ้นปี 2025 นี้ และผลักดันระบบ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) หรือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปแทนในปี 2026 หลังจากที่ F-150 แบบ EV มียอดขายตกต่ำในตลาดสหรัฐอเมริกา


ทำไมกระบะ EV ฟอร์ดถึงไม่ไปต่อ ?

วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (Wall Street Journal: WSJ) สื่อชื่อดังในสหรัฐฯ รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา Ford ประสบภาวะขาดทุนสะสมในธุรกิจรถยนต์กระบะพลังงานไฟฟ้ารวมกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 4 แสนล้านบาท

โดยสาเหตุสำคัญมาจากผลตอบรับของตลาดที่เป็นไปในทิศทางลบ โดยรุ่นเริ่มต้นของ F-150 จากเดิมในปี 2022 ที่ประมาณ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ พุ่งไปถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ 

ส่งผลให้ยอดขายของกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning ล่าสุดในปี 2025 ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 3.7% เมื่อเทียบกับยอดขายรถกระบะตระกูล F-Series ทั้งหมด ซึ่งเกิดขึ้นจากขาดการสนับสนุนราคาขายจากรัฐบาล และความต้องการรถกระบะขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ลดลง ซึ่งต่างจากที่ฟอร์ดเคยคาดการณ์ว่าตระกูลรถกระบะขนาดใหญ่จะเป็นพื้นที่ช่วงชิงทางการตลาดที่ฟอร์ดสามารถทำกำไรได้

กระบะ EV ฟอร์ด ปรับแผนเป็น REEV หวังเรียกยอดขายคืนมา

และเพื่อกอบกู้สถานการณ์ บริษัท Ford จะเปลี่ยนกลยุทธ์จากรถยนต์ไฟฟ้าคันใหญ่ (Large EVs) ไปเน้น รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) และ รถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะทาง (EREV) แทนในปี 2026 

โดย F-150 Lightning รุ่นถัดไปจะเปลี่ยนเป็นระบบ REEEV ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแต่มีเครื่องยนต์สันดาปเป็นเครื่องปั่นไฟ ซึ่งช่วยให้วิ่งได้ไกลกว่า 1,126 กิโลเมตร จากเดิมที่รุ่น BEV ทำได้เพียง 515 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน EPA ซึ่งฟอร์ดเชื่อว่าจะตอบโจทย์ความกังวลเรื่องระยะทางและการลากจูงได้ดีขึ้น แต่ยังไม่มีการเปิดรายละเอียดอื่น ๆ ของตัวรถ F-150 ที่จะเปลี่ยนแปลงในปีหน้า

การปรับขุมพลังรถกระบะ F-150 เป็น REEV เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ฟอร์ดผลักดันเพื่อให้ธุรกิจกลับมาทำกำไรภายในปี 2029 พร้อมหันไปพัฒนารถกระบะไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กและราคาถูกลง โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปี 2027 นี้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง