กองทัพบกสหรัฐฯ เปิดตัวหัวรถจักร ATLAS พลังงานแบตเตอรี่ 100% ขบวนแรกเสริมความยืดหยุ่นด้านพลังงาน

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา กองทัพบกสหรัฐฯ ได้เปิดตัวหัวรถจักร ATLAS ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ 100% ขบวนแรกอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์ปฏิบัติการทางรถไฟของฐานทัพ Fort Hood โดยมีผู้นำหน่วยทหารของฐานทัพ Fort Hood และผู้แทนจากบริษัท Dominion Energy ร่วมในพิธีเฉลิมฉลองการเริ่มใช้งาน

พลโท เควิน ดี. แอดมิรัล (Kevin D. Admiral) ผู้บัญชาการกองทัพที่ 3 (III Armored Corps) และผู้บังคับการฐานทัพ Fort Hood กล่าวว่า "ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ และสะท้อนถึงก้าวสำคัญของกองทัพบกในการเดินหน้าสู่การปรับปรุงกำลังรบให้ทันสมัย ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความยืดหยุ่นด้านพลังงานและความยั่งยืนในระยะยาว"

โครงการความยืดหยุ่นด้านพลังงาน ลดต้นทุนและลดคาร์บอน

หัวรถจักรพลังงานแบตเตอรี่ขบวนใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มความยืดหยุ่นด้านพลังงานของ Fort Hood ซึ่งดำเนินการร่วมกับบริษัท Dominion Energy ในฐานะพันธมิตรด้านสาธารณูปโภคไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเท็กซัสและบริษัท Dominion Energy ภายใต้กรอบเงินช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวทางเศรษฐกิจด้านการป้องกันประเทศ (Defense Economic Adjustment Assistance Grant) ที่เมืองฮาร์เกอร์ ไฮท์ส (Harker Heights) เป็นผู้ยื่นขอทุน

หัวรถจักรคันนี้ถูกแปลงสภาพจากหัวรถจักรดีเซลที่กองทัพบกเป็นเจ้าของ ให้กลายเป็นหัวรถจักรไฟฟ้า ATLAS ซึ่งใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยกองทัพคาดว่าจะสร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรมหลายด้าน ทั้งในแง่เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

ในด้านต้นทุนการดำเนินงาน หัวรถจักรไฟฟ้า ATLAS คาดว่าจะช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,572,500 ต่อปี ขณะเดียวกันยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 308 เมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถโดยสารประจำทางในเขตเมืองจำนวน 54 คัน ออกจากท้องถนน นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ายังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา เมื่อเทียบกับหัวรถจักรดีเซลแบบดั้งเดิม

รองรับภารกิจหนักและทำหน้าที่เป็นพลังงานสำรอง

หัวรถจักรพลังงานแบตเตอรี่ขบวนนี้จะถูกนำมาใช้ในภารกิจประจำวันของ Fort Hood โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายตู้รถไฟภายในฐานทัพ และการจัดการงานขนส่งหนักในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นจุดเชื่อมต่อทางรถไฟที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของกองทัพบกสหรัฐฯ

แบตเตอรี่ของหัวรถจักรสามารถรองรับการทำงานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง และใช้เวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งในการชาร์จจนเต็ม นอกจากนี้ ระบบยังสามารถนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ผ่านเทคโนโลยีเบรกแบบสร้างพลังงานกลับ (Regenerative braking) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวม

เควิน แมนน์ (Kevin Mann) ผู้อำนวยการฝ่าย Federal Energy Solutions ของบริษัท Dominion Energy ระบุว่า "หัวรถจักรขบวนนี้มีความยืดหยุ่นสูงด้านแหล่งพลังงาน โดยสามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงข่าย ERCOT รวมถึงพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และแม้แต่พลังงานนิวเคลียร์ได้"

ยิ่งไปกว่านั้น หัวรถจักรไฟฟ้านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเป็นยานพาหนะขนส่งเท่านั้น แต่ยังสามารถทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มพลังงานไฟฟ้าเคลื่อนที่ (Mobile energy platform) โดยจ่ายไฟฟ้าสำรองให้กับสถานีปฏิบัติการทางรถไฟและสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบได้นานสูงสุดถึง 48 ชั่วโมง ในกรณีที่โครงข่ายไฟฟ้าหลักประสบปัญหาหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน

เสริมความพร้อมรบและโลจิสติกส์ของกองทัพ

พลโท เควิน ดี. แอดมิรัล (Kevin D. Admiral)  กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำหัวรถจักรไฟฟ้ามาใช้งาน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของฐานทัพ Fort Hood ในการสนับสนุนภารกิจของ III Armored Corps ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ตามกำหนดเวลา พร้อมเน้นย้ำว่า หัวรถจักรขบวนนี้เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และความมุ่งมั่นของกองทัพบกสหรัฐฯ ต่ออนาคตที่ยั่งยืนและมีความยืดหยุ่นสูง

สำหรับฐานทัพ Fort Hood นับเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางทหารที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขนส่งทางราง ในปีงบประมาณ 2025 เพียงปีเดียว ฐานทัพแห่งนี้มีการเคลื่อนย้ายรถไฟรวม 157 ขบวน ตู้รถไฟ 8,585 ตู้ และขนส่งยุทโธปกรณ์กว่า 6,162 ชิ้น คิดเป็นน้ำหนักรวมมากกว่า 243,000 ตัน สะท้อนบทบาทสำคัญของระบบรางต่อความพร้อมรบและการปฏิบัติการของกองทัพบกสหรัฐฯ ในระดับโลก