ภาษียาสหรัฐกระทบเฮลแคร์ หุ้นไทยเน้นจับตัวแลกการ์ด

#UOBAM #ทันหุ้น UOBAM เผยภาษียา 100% กระทบหุ้นกลุ่มเฮลแคร์ -ร้ายขายยา และไบโอเทค ที่ส่งผลิตภัณฑ์ไปสหรัฐ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวดีกว่าคาด ส่วนหุ้นไทย ที่ยังแลกการ์ดมองเป็นโอกาสลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ UOBAM เผยเหตุการณ์สำคัญรอบโลกที่มีผลต่อบรรยากาาศลงทุน และเศรษฐกิจ ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นอัตราภาษี100% สําหรับยาที่มีตราสินค้าหรือสิทธิบัตร และให้มีผลทันทีในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 คาดการณ์ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานธุรกิจ อุตสาหกรรมยาโลก และกดดันหุ้นกลุ่มเฮลแคร์ (Healthcare) โดยเฉพาะกลุ่ม ร้านขายยา (Pharmacy) และ ไบโอเทค (Biotech) ในหุ้นยาบริษัทต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มีรายได้พึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐในอัตราที่สูง
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี(US 10Y Yield) ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 4.17% จากแรงขาย Sell-On-Fact หลังตลาดรับรู้ FED Dot-Plot เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
*เศรษฐกิจดีกว่าคาด
โดย GDP ไตรมาส2/2568 สหรัฐขยายตัวดีกว่าคาดที่ 3.8% จากที่คาดการณ์3.3% รวมถึงคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน สิงหาคมขยายตัวได้ดีกว่าคาดที่ 2.9% จากคาดการณ์-0.5% ขณะที่การขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สหรัฐออกมาน้อยกว่าคาดที่ 218,000 ตําแหน่ง จากคาดการณ์235,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อ PCE และ Core PCEสหรัฐเดือน ส.ค. เทียบรายปีออกมาเท่ากับคาดการณ์ที่ 2.7% และ 2.9% โดยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผผู้บริโภค ม.มิชิแกน เดือน ก.ย. ออกมาน้อยกว่าคาดที่ 55.1จากคาดการณ์55.4 รวมถึงผลสํารวจความคาดหวังเงินเฟ้อ 1 ปีและ 5 ปีหน้าในเดือน ก.ย. น้อยกว่าคาดการณ์ที่4.7% และ 3.7%จาก คาดการณ์ 4.8% และ 3.9%
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังอยู่ในทิศทางการขยายตัว ลดความคาดหวังการเร่งลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
ส่วนจีน ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี(LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปีเอาไว้ที่ระดับ 3.0% และ 3.5% รวมถึงเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนตลาดพันธบัตรสกุลเงินหยวนในฮ่องกง และเร่งผลักดันให้เงินหยวนถูกนําไปใช้ในระดับโลกมากขึ้น โดยจะสนับสนุนให้สถาบันการเงินจากต่างประเทศเข้ามาทํา
ธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตร (repo) เพื่อให้การใช้พันธบัตรเงินหยวนมีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้นโดยคาดการณ์การเพิ่มเพดานการซื้อขายต่อวันจาก 20,000 ล้านหยวน เป็น 45,000 ล้านหยวน
*หุ้นแลกการ์ดน่าสน
ด้านตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงการแกว่งตัวในกรอบสอดคล้องไปกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่เข้าสู่ช่วงพักตัวหลังปรับ ตัวขึ้นมาได้ดีในช่วงก่อนหน้านี้ คาดการณ์ยังมีโอกาสในกลุ่มหุ้น Laggards-Play ที่ยังปรับตัวขึ้นมาช้ากว่า
จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาลง สามารถสร้างโอกาสการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุ (Duration) ยาวขึ้น จากการสร้างรายได้จากส่วนต่างของราคาหน้าตั๋ว (Capital gain) ดังนั้น บลจ.ยูโอบีจึงแนะนำกองทุนตราสารหนี้ที่มีนโยบายเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตเพื่อโอกาสในการลงทุน
โดยแนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGIS-N) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ เอฟเอ็กซ์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGISFX-N) ระดับความเสี่ยง 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง)ทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund (Class I)
ส่วนหุ้นโลก แนะนำ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อิควิตี้ แอบโซลูท รีเทิร์น (UGEAR) บนความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงขึ้น เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีค่าความสัมพันธ์กับกองทุนหุ้นโลกอื่นๆ ที่ต่ำมาก โดยกองทุน UGEAR ลงทุนในกองทุนหลัก Jupiter Merian Global Equity Absolute Return Fund (Class I USD Accumulation) นโยบาย การลงทุนเพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกโดยไม่ขึ้นกับภาวะตลาดในแต่ละขณะ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
