นายกฯสั่งคลังศึกษา”คนละครึ่งพลัส”เฟสสอง หลังประชาชนแห่ใช้ ครึ่งวันแรกกว่า 339 ล้าน

#ทันหุ้น นายกฯสั่งคลังศึกษา”คนละครึ่งพลัส”เฟสสอง หลังประชาชนแห่ใช้ ครึ่งวันแรกกว่า 339 ล้าน เบื้องต้นจะพิจารณาให้สิทธิ์แก่กลุ่มที่ตกหล่นและเพิ่มสิทธิ์ให้ผู้อยู่ในระบบภาษีมากขึ้น ส่วนงบประมาณที่จะใช้จะดึงมาจากส่วนที่เหลือในเฟสแรก ขณะที่ คลังเตือนร้านค้า-ประชาชน“ทุจริตคนละครึ่งพลัส ถูกตัดสิทธิ์โครงการรัฐแน่

นายเอกนิติ นิติทัณฑประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งพลัสของรัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าใช้จ่ายวันนี้(29ต.ค.)เป็นวันแรก ซึ่งพบว่า มีการใช้จ่ายกันอย่างคึกคัก เพียง 1 ชั่วโมงแรกของการใช้จ่ายมียอดใช้จ่ายกว่า 35 ล้านบาท จากนั้นในเวลาประมาณ 11.00 น.มียอดใช้จ่ายกว่า 339 ล้านบาท จากผู้ใช้สิทธิ์กว่า 1.66 ล้านคน จำนวนร้านค้าที่ถูกใช้สิทธิ์กว่า 2.73 แสนร้านค้า เชื่อว่า โครงการนี้ จะมีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสี่ได้มากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 0.3%

เขากล่าวว่า จากยอดการใช้จ่ายที่คึกคักของโครงการดังกล่าว ทางรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังศึกษาการดำเนินโครงการในเฟสที่สอง ซึ่งเราอาจจะให้สิทธิ์แก่คนที่พลาดการลงทะเบียนร่วมโครงการในเฟสแรกก่อน ในส่วนร้านค้านั้น เราอาจจะเพิ่มแรงจูงใจด้วยการให้สิทธิ์เข้าไปเพิ่มทักษะการค้าขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะการค้าขายผ่านระบบออนไลน์

“ถ้าประชาชนตอบรับโครงการนี้ดีมาก ท่านนายกรัฐมนตรีก็บอกว่า น่าจะทำต่อ ทางทีมเราก็กำลังศึกษาว่า จะทำอย่างไร ส่วนงบประมาณนั้น เราก็ต้องมาดู ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ในโครงการคนละครึ่งพลัสหนึ่งนั้น เป็นงบประมาณเดิมไม่ใช่งบประมาณใหม่ ซึ่งเราอาจจะนำเงินที่เหลือบางส่วนมาทำในเฟสสอง โดยเฉพาะในเรื่องของการเพิ่มทักษะการค้าขายของผู้ประกอบการ เพื่อจูงใจให้เขาเพิ่มประสิทธิภาพการค้าขาย”

สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนั้น ขณะนี้ มีจำนวนประมาณกว่า 6 แสนราย เป็นร้านค้ารายเดิมประมาณ 1 แสนราย อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการนั้น ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ส่วนแพลทฟอร์มเดลิเวอร์รี่นั้น เราจะเปิดให้ลงทะเบียนร่วมโครงการในวันที่ 7 พ.ย.นี้  

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า บรรยากาศของการใช้จ่ายเงินวันแรกของโครงการมีความคึกคักและได้รับความสนใจอย่างมาก โดยระบบของโครงการทำงานได้ดีกว่าเดิมและรวดเร็วมาก ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งพลัสได้ปิดยอดการลงทะเบียนไปที่ 20 ล้านคน โดยมีจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเกินมาเล็กน้อยราว 4 แสนคน โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะมีโครงการ "คนละครึ่งพลัส" เฟสสองอย่างแน่นอน

“การดำเนินงานในเฟสสองจะมีการออกแบบที่ไม่เหมือนกับเฟสแรก เบื้องต้นมีแนวคิดว่า อาจจะให้สิทธิ์กับกลุ่มคนที่ ตกหล่นก่อนหรือเข้าไม่ถึงโครงการในเฟสแรก รวมทั้งให้สิทธิ์ผู้ที่ยื่นแบบภาษีมากกว่า”

ทั้งนี้ จะมีการพิจารณานำเงินที่เหลือจากเฟสแรก กรณีหากมีคนไม่ใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. เพื่อมาดำเนินการในเฟสสอง โดยจะมีการประเมินผลการใช้จ่ายในช่วง 7 วันแรก ก่อนที่จะออกแบบโครงการเฟสสองให้ตรงกับความต้องการต่อไป

นายลวรณกล่าวยอมรับว่า เราได้พบพฤติกรรมการทุจริตในโครงการ โดยเฉพาะการ "รับแลกเป็นเงินสด" ซึ่งมีการหักเปอร์เซ็นต์ โดยพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นทั้งจากฝั่งร้านค้าและฝั่งประชาชน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังยืนยันว่าระบบสามารถตรวจจับการทุจริตได้อย่างรวดเร็วมาก และมีการประสานงานที่ดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารกรุงไทย ตำรวจ และมหาดไทย โดยมีเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด

สำหรับบทลงโทษหากตรวจพบทุจริต จะมีการตัดสิทธิ์บุคคลหรือร้านค้าดังกล่าวออกจากโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ทันที และการกระทำผิดนี้จะถูกบันทึกไว้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลในอนาคต นอกจากนี้ อาจมีโทษทางอาญาและทางแพ่งตามมาตรากฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขึ้นอยู่กับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่