"ไปรษณีย์ไทย" ย้ำไม่แข่งด้านราคา ส่งซูเปอร์แอปสู้ศึกแพลตฟอร์ม

การแข่งขันในภาคธุรกิจขนส่งยังคงเป็นไปต่อเนื่อง และกำลังพัฒนาไปสู่การแข่งขันในระดับแพลตฟอร์ม ซึ่งไม่ได้แข่งกันเฉพาะแค่การบริการขนส่ง ส่งด่วน หรือส่งไว เท่านั้น
สำหรับ ไปรษณีย์ไทย ที่มุ่งลงทุนในเทคโนโลยี และซุ่มพัฒนา มานาน เตรียมแผนจะเปิดตัว ซูเปอร์แอป ในปี 2569 เพื่อสู้ในศึกสงครามแพลตฟอร์ม ดังกล่าว เป็นไปตามแผนการทรานส์ฟอร์มองค์กร เพื่อเป็น เทคโพสต์ หรือ เทคคอมพานี ที่สร้างรายได้ใหม่จากบริการดิจิทัล และ AI
ซูเปอร์แอป ที่จะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2569 นี้ จะเป็นแอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์ม ที่รวบรวมบริการหลากหลายของไปรษณีย์ไทยไว้ในที่เดียว และรวมทุกแอปพลิเคชันที่อยู่แยกกัน มาเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็น การเช็คสถานะ, บริการ Prompt POST ระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร และ บริการระบุตัวตนแบบดิจิทัล หรือ DID ตลอดจนการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้งาน
พร้อมกับรองรับการเชื่อมต่อกับบริการภาครัฐ และพันธมิตรเอกชน ตลอดจนการมุ่งส่งเสริม เอสเอ็มอี เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
แพลตฟอร์มดังกล่าว ยังมาพร้อมกับแนวคิด การเพิ่มความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจประเทศ จากปัจจุบันไทยมีแพลตฟอร์มต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 90 ที่ดึงเม็ดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจ
ในประเด็นนี้ ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบริการดิจิทัล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า การจะแข่งขันได้ แพลตฟอร์ม จะต้องสู้กับ แพลตฟอร์ม และบอกอีกว่า ไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ การพัฒนาแพลตฟอร์มขึ้นมาก็เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในระบบนิเวศ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงดึงผลประโยชน์ให้ยังคงอยู่ในประเทศ ไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม บวกกับจุดแข็งของประเทศ และจะต้องเป็นจุดแข็งที่ต่างชาติสู้ไม่ได้ เช่นในเรื่อง อาหาร ยา บริการทางการแพทย์ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมา จะมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดี เน้นการใช้งานระยะยาวที่ไม่แพ้แพลตฟอร์มของภาคเอกชน
ส่วนเรื่องผลประกอบการของไปรษณีย์ไทย ดร.ตฤณ แย้มว่า ปีนี้จะมีกำไรแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเข้าไปแข่งขันในเรื่องราคา หรือดั๊มราคาจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ก่อนหน้านี้ ไปรษณีย์ไทย เผยรายได้รวม 9 เดือนแรกของปี 2568 (ระหว่างเดือนมกราคม ถึงกันยายน) โดยมีรายได้กว่า 16,860.73 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ผู้บริหารไปรษณีย์ไทย บอกด้วยว่า จุดแข็งของบริษัทฯ คือ Trust (ทรัสต์) ความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ที่คนไทยมีต่อ ไปรษณีย์ไทย และพี่ไปร (บุรุษไปรษณีย์)
แต่สำหรับปี 2569 จะเป็นปีแห่งการพลิกโฉมของไปรษณีย์ไทย เปลี่ยนประสบการณ์จากที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย เพราะทุกวันนี้คนไทยส่วนใหญ่อยู่ในโลกดิจิทัล ดังนั้น ในปีหน้า ทุกคนจะยังได้รับ ทรัสต์ ในรูปแบบกายภาพ ซึ่งรวมถึง พี่ไปร และจะได้รับ ทรัสต์ จากบริการดิจิทัล ที่พัฒนาขึ้นมาอีกด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
