รีเซต

ชาวบ้าน 6 หมู่ รวมตัวค้าน 'โรงขยะ' หลังจ่อสร้างบนพื้นที่ 13 ไร่

ชาวบ้าน 6 หมู่ รวมตัวค้าน 'โรงขยะ' หลังจ่อสร้างบนพื้นที่ 13 ไร่
มติชน
5 กรกฎาคม 2565 ( 17:41 )
55
ชาวบ้าน 6 หมู่ รวมตัวค้าน 'โรงขยะ' หลังจ่อสร้างบนพื้นที่ 13 ไร่

เคราะห์กรรมซ้ำเติมชาวหนองแหน หลังโรงงานคัดแยกสิ่งปฏิกูลจ่อผุดในพื้นที่ซ้ำเติมบ่อขยะและอุตสาหกรรมเน่าเหม็นเดิมที่เคยมีอยู่แล้วจนล้นทั้งตำบลรวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบ ทำชาวบ้านสุดทนรวมตัวคัดค้าน เหตุจากอุตสาหกรรมจังหวัดเตรียมอนุญาตให้ก่อตั้ง หวั่นซ้ำรอยคดียิงผู้ใหญ่จบเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวปกป้องถิ่นกำเนิดจนถูกบุกสังหาร สุดท้ายยังเอาผิดผู้จ้างวานไม่ได้ก่อนกลายเป็นตำนานที่ฝังใจอย่างไม่มีวันลืมเลือนจางหายไปจากชุมชน

เมื่อเวลา 09.30 – 12.30 น. วันที่ 5 กรกฎาคม ที่ศาลาฌาปนกิจสถาน ภายในวัดหนองแหน ม.12 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 350 คน เดินทางมารวมตัวเพื่อคัดค้านการก่อตั้งโรงงานคัดแยกขยะหรือสิ่งปฏิกูล ที่เตรียมจะเข้ามาดำเนินการก่อตั้งขึ้นภายในหมู่บ้านปากห้วย ม.7 ต.หนองแหน บนพื้นที่ 13 ไร่ ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรงงานดังกล่าวรวม 6 หมู่บ้าน คือ ม.5,6,7,8,9 และ ม.14 จากทั้งหมด 15 หมู่บ้าน

แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องเข้ามารับฟังความคิดเห็น เนื่องจากทางสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา ใช้เพียงวิธีการปิดประกาศมีกำหนดภายใน 15 วัน จึงทำให้ ทาง อบต.หนองแหน ซึ่งนำโดยนายอรรถพล นพเกตุ นายก อบต.หนองแหน พร้อมเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงาน เข้ามาจัดทำเวทีรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านขึ้นมา และมีชาวบ้านออกมาชูป้ายเคลื่อนไหวและแสดงความคิดเห็นในการคัดค้านเกิดขึ้น

โดยทาง อบต.หนองแหน ได้มีการชี้แจงในรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ที่ได้มีการยื่นขอจัดตั้งโรงงานจำพวก 3 ที่ต้องมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนประกอบการพิจารณา คำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ของผู้ประกอบการเอกชนรายหนึ่ง ที่จะเข้ามาประกอบกิจการตัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย โดยมีกำหนดที่จะให้รับฟังบุคคลที่จะให้ความเห็นหลังการปิดประกาศ ภายในวันที่ 8 ก.ค.65 นี้

ก่อนที่ทางสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา จะดำเนินการพิจารณาอนุญาตหรือไม่ต่อไป ซึ่งในการรวมตัวประชุมในวันนี้ชาวบ้านได้มีมติของคนในชุมชนในการคัดค้านการก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ และหลังจากนี้ไปในวันที่ 7 ก.ค.65 เวลา 13.00 น. ชาวบ้านจะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อแสดงถึงมติคัดค้านการก่อสร้าง ยังที่สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไป

โดยนายสมศักดิ์ เนตรนาต อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ม.14 ต.หนองแหน กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านใน ต.หนองแหน ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องมานานนับสิบปี ทั้งปัญหาน้ำเน่าเสีย น้ำใต้ดินใช้ในการอุปโภคบริโภคไม่ได้ มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำน้ำสาธารณะ มีการลักลอบเผาทิ้งขยะสร้างมลพิษ โดยที่ไม่ได้มีการนำออกไปทำลายอย่างถูกต้อง เนื่องจากเขาต้องการลดต้นทุน จึงสร้างมลพิษให้แก่คนในพื้นที่มาโดยตลอด

โดยคนใน ต.หนองแหน เสียทั้งด้านสุขอนามัย ด้านสาธารณสุข การทำมาหากินประกอบอาชีพอย่างปกติสุขก็ไม่ได้ เพราะจะมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยมารบกวนตลอด สถานประกอบการสิ่งปฏิกูลบางแห่ง ได้มีการนำขยะมาฝังกลบโดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ว่านำอะไรเข้ามาฝังกลบบ้าง โดยเห็นแต่กองขยะสูงเป็นภูเขาท่วมหมู่บ้าน เมื่อมีฝนตกลงมาได้ทำให้น้ำจากกองภูเขาขยะไหลลงมาสู่แปลงที่ดินของชาวบ้าน ส่งผลกระทบอย่างมากมายทั้งการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและความเป็นอยู่

ขณะที่หน่วยงานผู้ที่ออกใบอนุญาตให้แก่โรงงานเหล่านี้เข้ามาก่อตั้งนั้น ก็ไม่เคยเข้ามาดูแล เขาทำหน้าที่แต่เพียงแค่ออกใบอนุญาตให้อย่างเดียว ขณะที่ตัวของเขานั้นไปนอนอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งผิดจากชาวบ้านที่ต้องทนใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งปฏิกูลรวมถึงมลพิษเหล่านี้มาโดยตลอด นายสมศักดิ์ กล่าว

ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านอีกหลายรายได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหน้าเวที และมีการกล่าวถึงบทเรียนของชุมชนที่ผ่านมา ที่ชาวบ้านในพื้นที่มีความบอบช้ำจากบ่อขยะและกากอุตสาหกรรม หรือขยะพิษที่เข้ามาก่อตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองแหน และใกล้เคียงหลายสิบแห่งมาโดยตลอด รวมถึงกรณีที่ นายประจบ เนาวโอภาส หรือผู้ใหญ่จบ อายุ 43 ปี (ในขณะนั้น) ผู้ใหญ่บ้าน ม.14 ต.หนองแหน ลูกมือปืนบุกเข้าไปสังหารขณะกำลังนำรถเข้าไปซ่อมภายในอยู่ซ่อมรถ ในตัว อ.พนมสารคาม เมื่อวันที่ 25 ก.พ.56 จนเสียชีวิต

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มมือปืนและผู้จ้างวานได้จำนวน 3 คน แต่สุดท้ายไม่สามารถเอาผิดต่อผู้จ้างวานได้ เหตุจากศาลฎีกามีการพิจารณายกฟ้องคดี ส่วนมือปืนซึ่งเป็นอดีตทหารอากาศทั้ง 2 รายนั้น ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกไปก่อนหน้าแล้ว จึงถือเป็นเหตุการณ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงจำฝังใจเป็นบทเรียนอย่างไม่มีวันลืมเลือน และยังมีการตั้งพิพิธภัณฑ์เป็นอนุสรสถานแด่ผู้ใหญ่จบไว้ในชุมชนอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง