PISโกยเมกะเทรนด์ รัฐทรานส์ฟอร์มดิจิทัล
#PIS #ทันหุ้น – PIS เทรดวันนี้มั่นใจเป็นหุ้นโตแรงกระแสตอบรับคึก ชูจุดเด่นลุยงานไอซีทีลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ รับการทรานส์ฟอร์มดิจิทัลของทางการ แบ็คล็อคแน่น 2.1 พันล้านบาท มีรายได้ประจำจากงานบริการสูงกว่า 40% ของรายได้รวม ชี้เข้าตลาดดันศักยภาพการประมูลงานมูลค่าสูงขึ้น 2 พันล้านบาท โบรกเคาะเป้า 4.10-4.26 บาท
นางสาวเบญญาภา เฉลิมวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ม.ค. 2568) หุ้น PIS จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากพื้นฐานธุรกิจมีความแข็งแกร่ง รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามงานประมูลด้านไอซีทีของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในแต่ละปีมีการประมูลงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และด้วยประสบการณ์ของทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีโซลูชั่นครบวงจร และเป็นคู่ค้ากับภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมายาวนาน ทำให้เพิ่มโอกาสในการได้รับงาน สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนนำไปวางเป็นหลักค้ำประกันกับสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการออกหนังสือค้ำประกัน ให้กับงานโครงการ ในจำนวน 84 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในงานโครงการแก่ลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 336 ล้านบาท
“การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ของ PIS ถือเป็นก้าวสำคัญในการ สร้างโอกาสเติบโตให้กับบริษัท เพิ่มศักยภาพการประมูลงานเพิ่มมากขึ้น มากกว่า 2,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่เข้าประมูลงานโครงการมูลค่ามากกว่า 200 – 1,000 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมไอซีทียังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องนโยบายรัฐที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล” นางสาวเบญญาภากล่าว
@งบประมาณรัฐเพียบ
นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS กล่าวว่า PIS ถือเป็นหุ้น Growth Stock ที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล สอดรับแผนและยุทธศาสตร์ 20 ปี และการยกระดับพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ทำให้มีความจำเป็นต้องจัดทำงบประมาณสำหรับ Upgrade หน่วยงานรัฐสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นโอกาสคว้าประมูลงานใหม่ของบริษัทฯ หนุนรายได้เติบโตอย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน นอกจากนี้บริษัทยังมีจุดเด่นและความแข็งแกร่งที่สำคัญจากการที่โฟกัสกลุ่มลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ทำให้แหล่งที่มาของรายได้มีความมั่นคง อีกทั้งกำไรยังมีความผันผวนน้อย เนื่องจากกว่า 40% ของรายได้ เป็นรายได้ประจำ (Recurring Income)
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวด 9 เดือนปี 2567 มีรายได้รวม 988.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.38% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 67.88 ล้านบาท
ทั้งนี้ PIS เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 140 ล้านหุ้น ราคา 3.00 บาท/หุ้น มูลคาที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้
@ เคาะเป้า 4.10-4.26 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ PIS โดยคาด 1.การเติบโตของรายได้จากการขาย และให้บริการ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (ปี 2567-2569) +29.8% YoY ส่วนใหญ่เป็นงาน ICT Application Solution จัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่บนแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับระบบคลาวด์และ IoT และงานบำรุงรักษาระบบ (MA) ซึ่งมีทั้งงานต่อเนื่องจากลูกค้าเดิม และที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้าใหม่ 2. สามารถรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับสูง ตามสัดส่วนรายได้จากงานโครงการที่มีความซับซ้อน และรายได้จากการให้บริการที่มี Margin ที่สูงกว่า รวมถึงการบริหารต้นทุนโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 106.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.7% YoY เติบโตไม่สูงเพราะความล่าช้าของการจัดทำงบประมาณภาครัฐประจำปี ทั้งนี้บริษัทจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 เป็น 143.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +34.7% YoY และปี 2569 เป็น 196.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +36.4% YoY หรือเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ยต่อปี (CAGR ปี 2567-2569) +23.6% มีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่กลับเป็นปกติและโอกาสในการเข้าประมูลงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มากขึ้น ให้ราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 4.26 บาท ใช้ PER 16.0 เท่า ซึ่งเป็นค่ากลางระหว่างค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ PIS ที่ 4.20 บาท อ้างอิง PER ปี 2567 ที่ 16 เท่า ในขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยเฉลี่ย (CAGR) 3 ปี 2567-2569 อยู่ที่ 21% บริษัทให้บริการโซลูชันที่สอดคล้องกับนโยบาย Digital Thailand เช่น โครงการจัดหาระบบอ่านแผ่นป้ายทะเบียนอัตโนมัติครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ให้ราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 4.10 บาท ใช้ P/E เป้าหมาย 15.1x ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 PIS มีงานในมือสูงถึง 2.1 พันล้านบาท กระจายรับรู้ใน 2-3 ปี ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี และการยกระดับพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เชื่อจะทำให้งบประมาณ Upgrade หน่วยงานรัฐสู่ดิจิทัลจะมีหนาแน่นในระยะยาว