รีเซต

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 18-22 กรกฎาคม 2565

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 18-22 กรกฎาคม 2565
TNN ช่อง16
22 กรกฎาคม 2565 ( 17:54 )
92
สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 18-22 กรกฎาคม 2565

ข้าวโพด : ราคาลดลง

    ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ สัปดาห์นี้ ราคาลดลงจากหาบละ 747 บาท เป็นหาบละ 720 บาท เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่อง แนวโน้มราคาปรับลดลง

    ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนกันยายน 2565 ราคาอยู่ที่ 592.25 เซนต์/บุชเชล ราคาปรับลงเล็กน้อย กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ รายงานคุณภาพข้าวโพดสหรัฐฯ ที่ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากเท่าเดิมที่ 64% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สาม ด้านอุปสงค์ ข้าวโพดเพื่อการผลิตเอทานอล หน่วยงานด้านพลังงาน The US Energy Information Administration (EIA) ประกาศยอดการผลิตเอทานอลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.03 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.00 ล้านบาร์เรล แม้การผลิตจะเพิ่มขึ้น แต่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าทำให้สต๊อกเอทานอลลดลงเล็กน้อย ส่วนรายงานความคืบหน้าการเก็บเกี่ยวข้าวโพดรุ่นสองของประเทศบราซิล ปัจจุบันอยู่ที่ 49% เร็วกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาและมากกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ข้าวโพดอาร์เจนตินา รายงานความคืบหน้าการเก็บเกี่ยวล่าสุดอยู่ที่ 82% โดยปริมาณน้ำฝนในประเทศแถบอเมริกาใต้ยังคงบางเบาต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนอ่อน


ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว

    กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 22.60 บาท สถานการณ์ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูกฝั่งอเมริกา รวมทั้งค่าเงิน US Dollar ที่แข็งตัวอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้การส่งออกลดลงได้ ขณะที่สต๊อกในแต่ละประเทศยังไม่สูงมากนัก ส่วนปริมาณซื้อในตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง              

    ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนสิงหาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 1,490.0 เซนต์/บุชเชล และ กากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ 436.5 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน ราคาปรับขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประเมินคุณภาพถั่วเหลืองที่ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากลดลงจาก 62% เป็น 61% จากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและปริมาณน้ำฝนที่ลดลงโดยเฉพาะในรัฐมิสซิสซิปปี แคนซัส และลุยเซียนา นอกจากนี้คาดการณ์ปริมาณน้ำฝนในช่วงสัปดาห์หน้าจะยังคงเบาบางอยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของถั่วเหลืองได้ ด้านอุปสงค์ถั่วเหลือง National Oilseed Processors Association (NOPA) รายงานยอดการแปรรูปถั่วเหลืองเป็นถั่วเหลืองบด (Soybean Crush) ในสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 164.47 ล้านบุชเชล ลดลงจากยอดของเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 171.10 ล้านบุชเชล อย่างไรก็ตามยังสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่ 152.41ล้านบุชเชล

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว


ปลาป่น : ราคาทรงตัว

    การจับปลาของประเทศเปรูเข้าสู่ปลายฤดูกาลแล้ว ภาพรวมอยู่ในระดับที่ดี โดยจะปิดฤดูกาลภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าปริมาณปลาที่ได้จะอยู่ประมาณ 90% ของโควต้า ขณะที่ประเทศจีนผู้ซื้อหลัก ปริมาณซื้อหน้าท่าเรือในสัปดาห์ที่ผ่านมายังทรงตัวในระดับสูง ส่วนปริมาณสต๊อกปรับตัวลดลง และคาดว่าปลาป่นจากเปรูจะเริ่มเข้าท่าเรือที่จีนในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้

    โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 51.00 บาท ขณะที่ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 45.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 43.20 บาท

    ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 42.70 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 41.20 บาท

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว


ข้าว : ราคาลดลง

    ตลาดซื้อขายข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราคายังคงปรับลดลง เนื่องจากผู้ส่งออกชะลอซื้อ โดย ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 434 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 424 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 395 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 391 เหรียญสหรัฐฯ

    ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาลดลงจากกระสอบละ 1,430 บาท เป็นกระสอบละ 1,410 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ยืนราคาที่กระสอบละ 1,290 บาท

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว


สุกร : ราคายืนแข็ง

    สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ วันพระที่ 21 กรกฎาคม 2565 ทุกภูมิภาคยังคงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลรักษาระดับราคาสุกรขุนที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม แม้ต้นทุนการเลี้ยงยังคงสูง

    ขณะที่การบริโภคเนื้อสุกรยังคงอยู่ในระดับดีต่อเนื่อง หลังจากผ่อนคลายมาตรการโควิด ทั้งการท่องเที่ยว ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่กลับมาดำเนินกิจการตามปกติ มีเพียงสภาวะฝนจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 20-24 กรกฎาคม 2565 ที่จะกระทบการจับจ่ายในช่วงระยะสั้น 

    ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 3,600 บาท (บวก/ลบ 100) 

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนแข็ง


ไก่เนื้อ : ราคายืนแข็ง

    ราคาแนะนำไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม ตามสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ อยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท ขณะที่ราคาขายจริงตามภาวะต้นทุน ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 17.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 26.00 บาท 

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนแข็ง


ไข่ไก่ : ราคาเพิ่มขึ้น

    เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย แจ้งราคาแนะนำ "ไข่ไก่" คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ฟองละ 3.40 บาท (น้ำหนัก 20.5 กิโลกรัมขึ้นไป) โดยมีผลเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565    

    แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง