อนามัยโลกเปิดโครงการจ่ายเงินชดเชยผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 ในประเทศยากจน
เจนีวา, 22 ก.พ. (ซินหัว) -- แถลงการณ์จากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันจันทร์ (22 ก.พ.) ระบุว่าองค์การฯ และหุ้นส่วนเห็นพ้องเปิดตัวโครงการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ได้รับผลข้างเคียงรุนแรงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ใน 92 ประเทศยากจน ซึ่งนับเป็นกลไกชดเชยอาการบาดเจ็บจากวัคซีนระดับโลกเพียงหนึ่งเดียว
องค์การฯ ระบุว่าโครงการโน-ฟอล์ต คอมเพนเซชัน (No-Fault Compensation) เป็น "กระบวนการที่รวดเร็ว ยุติธรรม แข็งแกร่ง และโปร่งใส เพื่อให้บุคคลที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ได้รับเงินชดเชยผลข้างเคียงร้ายแรงที่พบได้ยาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายใต้โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การฯ จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2022"
โคแวกซ์เป็นโครงการจัดหาวัคซีนระดับโลก โดยวัคซีนภายใต้โคแวกซ์ได้รับการรับรองทางกฎหมายหรือการอนุมัติใช้งานในกรณีฉุกเฉิน เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัย
"วัคซีนเหมือนกับยาตัวอื่นๆ แม้ได้รับอนุมัติให้ใช้งานทั่วไปแล้ว แต่อาจเกิดกรณีพิเศษที่สร้างผลข้างเคียงร้ายแรง" องค์การฯ ระบุในแถลงการณ์ "การชดเชยผู้ได้รับผลข้างเคียงร้ายแรงด้วยเงินก้อนเต็มจำนวนโดยยังไม่มีการพิสูจน์ความผิดจะช่วยลดจำนวนการยื่นฟ้องร้องต่อศาลอย่างมาก รวมถึงหลีกเลี่ยงกระบวนการอันยาวนานและเสียค่าใช้จ่ายสูง"
เซธ เบิร์กลีย์ ซีอีโอของวัคซีน อัลไลแอนซ์ กาวี (Vaccine Alliance Gavi) ระบุในแถลงการณ์ว่ากลไกรับมือกรณีวัคซีนก่อให้เกิดผลกระทบแง่ลบร้ายแรง จะช่วยเหลือผู้ได้รับผลข้างเคียง รวมถึงช่วยให้ผู้ผลิตแจกจ่ายวัคซีนแก่ประเทศต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
โครงการโน-ฟอล์ต คอมเพนเซชัน จะดำเนินการโดยอีเอสไอเอส (ESIS) ในเครือชัปป์ ลิมิเต็ด (Chubb Limited) บริษัทประกันภัยข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนวัคซีน อัลไลแอนซ์ กาวี จะเป็นผู้จัดสรรเงินสนับสนุนกลไกชดเชยผ่านการ "เรียกเก็บเงินจากวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทุกโดสภายใต้โคแวกซ์"
ด้านดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ กล่าวชื่นชมข้อตกลงนี้ ซึ่งจะช่วยปกป้องและสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการรักษาชีวิตคนของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยิ่งขึ้น