อังกฤษผลิตรถยนต์ พ.ค. หนักสุดรอบ 70 ปี เหตุภาษี "ทรัมป์" l การตลาดเงินล้าน

การผลิตรถยนต์ในสหราชอาณาจักร ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตและค้ารถยนต์แห่งสหราชอาณาจักร หรือ SMMT ซึ่งเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการผลิตรถยนต์และยานพาณิชย์อยู่ที่ 49,810 คัน ลดลงถึง ร้อยละ 32.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นการลดลงรายเดือนในเดือนพฤษภาคมที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1949 หากไม่นับปี 2020 ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือหนักสุดในรอบ 70 ปี

การส่งออกรถยนต์จากอังกฤษไปยัง 2 ตลาดหลักอย่างสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐอเมริกา ก็ชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลงร้อยละ 22.5 และ ร้อยละ 55.4 ตามลำดับ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อังกฤษคือ การบังคับใช้ภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนจากต่างประเทศในอัตราร้อยละ 25 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาตรการดังกล่าวทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกสะดุด เพิ่มต้นทุนการผลิตให้กับบริษัทรถยนต์เป็นจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์ และยังผลักดันให้หลายบริษัท โดยเฉพาะในยุโรป เริ่มพิจารณาย้ายสายการผลิตมายังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเหล่านี้

นอกจากภาคยานยนต์แล้ว ภาคการผลิตโดยรวมของอังกฤษในเดือนพฤษภาคมก็ยังหดตัว โดยมีการลดลงทั้งในด้านการผลิต คำสั่งซื้อ และการจ้างงาน สะท้อนถึงแรงกดดันในระบบอุตสาหกรรมโดยรวม

อย่างไรก็ตาม ไมค์ ฮอว์ส ประธาน SMMT ยังมองเห็นแสงสว่างในภาพรวม โดยระบุว่าความคืบหน้าในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษกับสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับ EU ยังคงเป็นสัญญาณเชิงบวก โดยในการประชุมสุดยอด G7 ที่แคนาดาช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ และอังกฤษได้ยืนยันข้อตกลงทางการค้าที่อนุญาตให้นำเข้ารถยนต์จากสหราชอาณาจักรได้ปีละไม่เกิน 100,000 คัน โดยเสียภาษีเพียงร้อยละ 10 ซึ่งต่ำกว่าภาษี ร้อยละ 25 ที่ประเทศอื่นต้องเผชิญ

นอกจากนี้ อังกฤษยังบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียเพื่อลดภาษีและกำหนดโควตานำเข้ารถยนต์ รวมถึงมีความคืบหน้าในความร่วมมือกับ EU ในด้านการป้องกันประเทศ พลังงาน และเกษตรกรรม

ด้านการผลิตรถยนต์เฉพาะภาคยานยนต์ส่วนบุคคล (ไม่รวมยานพาณิชย์) SMMT ระบุว่า มีตัวเลขลดลงร้อยละ 31.5 ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนโมเดลรถ การปรับโครงสร้างภายในโรงงาน และผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ เป็นหลัก