รีเซต

ช่องทางธรรมชาติ ช่องโหว่ร้ายคุกคามยุติธรรมไทย

ช่องทางธรรมชาติ ช่องโหว่ร้ายคุกคามยุติธรรมไทย
TNN ช่อง16
7 พฤศจิกายน 2567 ( 21:15 )
26
ช่องทางธรรมชาติ ช่องโหว่ร้ายคุกคามยุติธรรมไทย

ช่องทางธรรมชาติ ภัยคุกคามเงียบต่อกระบวนการยุติธรรมไทย


ช่องทางธรรมชาติ ที่ทอดตัวไปตามแนวชายแดนไทย กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย และเป็นช่องโหว่ที่บั่นทอนกระบวนการยุติธรรม เส้นทางเหล่านี้ ซึ่งครอบคลุมทั้งแม่น้ำ ป่าเขา และแนวพรมแดนที่ซับซ้อน ได้กลายเป็น "ประตูหนีภัย" ของผู้ต้องหาที่ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรม เส้นทางธรรมชาติเหล่านี้แม้จะดูเป็นเพียงเส้นทางลับเล็ก ๆ แต่กลับเป็นทางออกสำหรับคดีอาญา คดีทุจริต หรือแม้แต่คดีทางการเมืองได้อย่างน่ากังวล


ด้วยความสะดวกสบายในการเข้าถึงและความเสี่ยงต่ำในการถูกจับกุม ช่องทางธรรมชาติทำให้ผู้ต้องหาสามารถเดินทางข้ามประเทศได้โดยไม่ต้องผ่านจุดตรวจอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีแนวพรมแดนยาวและซับซ้อน เช่น จังหวัดสระแก้วที่มีช่องทางธรรมชาติให้ลักลอบเดินทางมากถึง 43 จุด เส้นทางเหล่านี้นอกจากจะทำให้ผู้หลบหนีคดีพ้นจากกระบวนการยุติธรรมได้แล้ว ยังสะท้อนถึงความท้าทายที่ระบบยุติธรรมของเราต้องเผชิญ


เมื่อผู้ต้องหาหลบหนีคดีออกนอกประเทศสำเร็จ กระบวนการยุติธรรมย่อมได้รับผลกระทบในแง่ของความน่าเชื่อถือและความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย อีกทั้งยังเปิดช่องให้อาชญากรรมข้ามชาติแทรกซึมเข้ามาในประเทศได้มากขึ้น และกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงอย่างคาดไม่ถึง


ช่องทางธรรมชาติที่นิยมใช้หลบหนีคดีในไทย


1. ชายแดนไทย-กัมพูชา

   - จังหวัดสระแก้ว พื้นที่นี้มีพรมแดนยาว โดยเฉพาะจุดชายแดนเช่นช่องตาเถรและช่องอานม้า ซึ่งเป็นเส้นทางธรรมชาติที่ผู้หลบหนีนิยมใช้เดินเท้าหรือใช้รถผ่าน จุดนี้มีเครือข่ายช่วยเหลือในพื้นที่ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น

   - จังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ ชายแดนในพื้นที่นี้เชื่อมต่อกับกัมพูชาเช่นกัน มีเส้นทางป่าและแม่น้ำที่ช่วยให้ผู้หลบหนีสามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างง่ายดาย


2. ชายแดนไทย-เมียนมา

   - จังหวัดตาก โดยเฉพาะแม่สอดและแนวชายแดนตามแม่น้ำเมยที่เป็นที่รู้จัก มีการลักลอบเดินทางข้ามแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง เส้นทางนี้สามารถใช้เรือข้ามไปยังเมียนมาได้ง่าย ทำให้กลายเป็นช่องทางหลบหนีคดีสำคัญ

   - จังหวัดเชียงรายและแม่ฮ่องสอน พื้นที่นี้มีภูมิประเทศเป็นป่าเขาและพื้นที่ดอยสูง โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สาย เส้นทางนี้เป็นที่รู้จักว่ามีเครือข่ายอาชญากรรมและการลักลอบข้ามพรมแดนที่เจ้าหน้าที่ไทยจับตาอย่างเข้มงวด


3. ชายแดนไทย-ลาว

   - จังหวัดหนองคายและบึงกาฬ ติดแม่น้ำโขงที่เชื่อมระหว่างไทยและลาว เส้นทางธรรมชาตินี้สามารถใช้เรือหางยาวหรือแพข้ามแม่น้ำได้สะดวก เป็นเส้นทางที่ลักลอบใช้บ่อยครั้ง

   - จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร พื้นที่ริมแม่น้ำโขงที่มีเส้นทางธรรมชาติที่หลบเลี่ยงด่านตรวจและการควบคุมของเจ้าหน้าที่ เป็นจุดที่มีการลักลอบหลบหนีสูงเช่นกัน


4. ชายแดนไทย-มาเลเซีย

   - จังหวัดสงขลาและนราธิวาส มีเส้นทางป่าและเขาตามแนวชายแดนที่ช่วยให้ผู้ลักลอบเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและมาเลเซียได้ง่าย โดยเส้นทางเหล่านี้ค่อนข้างท้าทายต่อการตรวจสอบ

   - เบตง จังหวัดยะลา แม้มีจุดตรวจหลัก แต่ยังมีช่องทางธรรมชาติเล็ก ๆ ที่สามารถลัดเลาะเข้าออกได้โดยไม่ต้องผ่านด่านใหญ่


การปิดช่องโหว่ของช่องทางธรรมชาติจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย พร้อมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและประเทศเพื่อนบ้านว่าจะได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามทางอาชญากรรมข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในเส้นทางธรรมชาติเหล่านี้



ภาพ Freepik 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง