ไทม์ไลน์ชายแดนไทย–กัมพูชา เดือนพฤศจิกายน 2568 เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ไทม์ไลน์ชายแดนไทย–กัมพูชา เดือนพฤศจิกายน 2568
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ความตึงเครียดบนแนวชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุอย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้งเหตุลอบวางทุ่นระเบิด การยิงตอบโต้ระหว่างกองกำลังสองฝ่าย การเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก รวมถึงการดำเนินมาตรการฉุกเฉินของรัฐบาลไทย สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พื้นที่ชายแดนหลายจุดถูกยกระดับการเฝ้าระวังสูงสุดตลอดทั้งเดือน
ประมวลเหตุการณ์สำคัญรายวัน
10 พฤศจิกายน 2568 – จุดเริ่มต้นความตึงเครียดรอบใหม่
- ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จากเหตุเหยียบทุ่นระเบิดที่ถูกลักลอบวางในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หนึ่งนายอาการสาหัส
- นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมฉุกเฉิน เตรียมมาตรการตอบโต้ และเตรียมการยกเลิกข้อตกลงสันติภาพชายแดนเดิม หลังประเมินว่าฝ่ายกัมพูชารุกล้ำมากขึ้น
11 พฤศจิกายน 2568 – ไทยยืนยันกัมพูชายิงก่อน
- กองทัพไทยแถลงว่าในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ฝ่ายกัมพูชายิงก่อน ทำให้ฝ่ายไทยต้องยิงเตือนตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง
- มีการเสริมกำลังในจุดเฝ้าตรวจ และเตรียมศูนย์อพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกจุด เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจขยายวงกว้าง
12 พฤศจิกายน 2568 – ปะทะยิง 10 นาที และโดรนบินสำรวจ
- เกิดเหตุทหารกัมพูชายิงใส่บังเกอร์ฝ่ายไทยที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ไทยตอบโต้ทันที เหตุการณ์กินเวลาประมาณ 10 นาที
- รายงานจากพื้นที่พบโดรนต้องสงสัยบินเหนือแนวชายแดนหลายครั้ง
- ไทยประกาศยกเลิกการส่งตัวเชลยศึกกัมพูชา 18 นายกลับประเทศ หลังประเมินว่าไม่ปลอดภัยต่อกระบวนการส่งตัว
- ทั้งสองฝ่ายขยับกำลังพลและถอนอาวุธหนักบางส่วน ก่อนเสริมกำลังใหม่ในหลายพื้นที่ยุทธศาสตร์
13 พฤศจิกายน 2568 – เฝ้าระวังระดับสูงสุด
- สถานการณ์ยังตึงเครียด กำลังพลหลายหน่วยเข้าสู่ระดับปฏิบัติการฉุกเฉิน
- ไทยเพิ่มมาตรการตรวจเข้มตลอดแนวชายแดน พร้อมควบคุมการเข้า–ออกด่านตรวจทุกแห่งอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการลุกลามของเหตุปะทะ
ภาพรวมเดือนพฤศจิกายน 2568 – เดือนแห่งความขัดแยงสูงสุดแห่งปี
ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2568 เหตุการณ์ที่ชายแดนไทย–กัมพูชามีลักษณะ “ขยายตัวต่อเนื่อง” ทั้งจากการลอบวางทุ่นระเบิด เหตุยิงตอบโต้ รวมถึงการเคลื่อนกำลังในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งในฝั่งทหารและพลเรือน นอกจากนี้ไทยยังยกเลิกข้อตกลงสันติภาพที่ใช้ร่วมกันมาหลายปี และเข้าสู่มาตรการความมั่นคงขั้นสูงสุดในหลายจังหวัดชายแดน
สถานการณ์ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยพื้นที่และความไม่ไว้วางใจระหว่างสองชาติยังมีสูง และอาจนำไปสู่การปะทุรอบใหม่ได้ทุกเวลา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
