ทบ. โต้กัมพูชา ปมศพทหาร–เชลยศึก–ข่าวปลอมใส่ร้ายไทย

ทบ. โต้ข้อมูลกัมพูชา ปมศพทหารชายแดน–เชลยศึก–ข่าวปลอมทำลายชื่อเสียงไทย

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงต่อกรณีที่ประธานวุฒิสภากัมพูชาแสดงความเห็นระหว่างพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสงฆ์แห่งชาติครั้งที่ 33 โดยมีเนื้อหากระทบความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งกองทัพบกยืนยันว่าหลายประเด็นเป็นข้อมูลบิดเบือนจากสื่อในกัมพูชา และจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้สังคมเข้าใจผิด

1. ปมศพทหารตกค้างในพื้นที่ปะทะชายแดน

กองทัพบกระบุว่า ศพที่พบในพื้นที่ปะทะเมื่อกรกฎาคม 2568 เป็นของทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตระหว่างการรบ และถูกฝ่ายกัมพูชาปล่อยทิ้งไว้จนเน่าเสีย ส่งกลิ่นรบกวนชาวบ้านสองฝั่งชายแดน ฝ่ายไทยได้ท้วงติงเพื่อให้มารับศพกลับไปประกอบพิธีตามธรรมเนียม แต่กัมพูชาไม่ดำเนินการ กลับนำประเด็นไปกล่าวหาฝ่ายไทยแทน

ด้านทหารไทยที่เสียชีวิต 16 นายในเหตุปะทะครั้งนั้น กองทัพบกได้เคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา ประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมช่วยเหลือครอบครัวตามสิทธิราชการอย่างครบถ้วน

2. สถานะเชลยศึกกัมพูชา 18 นาย และกรณีผู้ป่วยจิตเวชถูกส่งกลับ

โฆษกกองทัพบกเผยว่า ไทยควบคุมตัวทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนรวม 20 นาย โดยส่งกลับแล้ว 2 นายที่มีอาการบาดเจ็บและภาวะเครียดทางจิต ปัจจุบันดูแลเชลยศึก 18 นายตามหลักมนุษยธรรม ภายใต้การตรวจสอบจาก ICRC

ส่วนกรณีทหารที่ถูกส่งกลับด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ถูกกัมพูชานำไปยกย่องและส่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สู้รบ กองทัพบกรมองว่าเป็นการปฏิบัติที่ขัดหลักมนุษยธรรม และเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว

3. ข่าวปลอมกล่าวหาทหารพรานไทยทำร้ายหญิงกัมพูชา

กรณีสื่อกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลว่า “ทหารพรานไทยทำร้ายและข่มขืนหญิงชาวกัมพูชาที่สวายเจก” ได้มีการประสานหน่วยงานในพื้นที่และกองทัพเรือแล้ว ผลตรวจสอบพบว่าเป็นข่าวเท็จที่สร้างขึ้นเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของทหารไทย

กองทัพบกยืนยันว่าการปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนทุกขั้นตอนเป็นไปตามหลักกฎหมายและกติกาสากล พร้อมเตือนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงใช้ “การบิดเบือนข้อมูล” เป็นเครื่องมือกดดันทางการเมืองภายในประเทศของตน

โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า การรับข้อมูลแบบทางเดียวในสื่อกัมพูชาอาจทำให้ประชาชนเชื่อข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าสังคมโลกมีวิจารณญาณเพียงพอที่จะประเมินเนื้อหาที่ฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ต่อไทย