รีเซต

"ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" สมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนจน รอบใหม่ รับเงินช่วยเหลือเพิ่ม 400 บาท เริ่ม ก.ย. - ต.ค. 65

"ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" สมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนจน รอบใหม่ รับเงินช่วยเหลือเพิ่ม 400 บาท เริ่ม ก.ย. - ต.ค. 65
Ingonn
4 สิงหาคม 2565 ( 08:47 )
27K
2
"ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" สมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนจน รอบใหม่ รับเงินช่วยเหลือเพิ่ม 400 บาท เริ่ม ก.ย. - ต.ค. 65

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันไหน เช็กด่วน! กรมบัญชีกลางเตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรัฐ 2565 ช่วง "เดือนสิงหาคม" โดยจะมีการเปิดให้ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรัฐรอบใหม่ ผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และให้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน 2565 ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรคนจนใบเดิม แต่บัตรคนจนใบเดิมนั้น สามารถกดเงินสดได้ เบื้องต้นจะใช้ลักษณะการผูกระบบพร้อมเพย์กับธนาคาร เป็นต้น

 

นอกจากนี้ครม.เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน-ตุลาคม 2565 เพื่อช่วยเหลือเป็นวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน รวมเป็น 400 บาท เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) รอบใหม่ ได้สิทธิอะไรบ้าง

 

เพิ่มเงินช่วยเหลือแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กี่เดือน

  • เดือนกันยายน 2565 ได้เพิ่ม 200 บาท
  • เดือนตุลาคม 2565 ได้เพิ่ม 200 บาท

    (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใด จะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป)
     

เพิ่มเงินช่วยเหลือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ใครได้บ้าง

  • ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
  • ผู้ที่ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
  • ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน
  • ผู้มีภาวะพึ่งพิงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

 

สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีอะไรบ้าง

ทั้งนี้ "บัตรคนจน" หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ช่วยลดภาระค่าครองชีพ เช่น

  1. ซื้อสินค้า 200-300 บาท
  2. ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ 500 บาท
  3. ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน) และถ้าเป็นกลุ่มเปราะบาง จะได้ส่วนลด 100 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน)
  4. เงินช่วยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือน (ตามที่จ่ายจริง) สำหรับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าในเดือน ก.ค.65 ไม่เกินเกณฑ์ 315 บาท โอนเข้าบัตร วันที่ 18 ส.ค.65 กดเป็นเงินสดได้
  5. เงินช่วยค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือน (ตามที่จ่ายจริง) สำหรับบ้านที่ใช้น้ำประปาในเดือน ก.ค.65 ไม่เกินเกณฑ์ 315 บาท โอนเข้าบัตร วันที่ 18 ส.ค.65 กดเป็นเงินสดได้
  6. เงินพิเศษผู้พิการ 200 บาท โอนเข้าบัตร วันที่ 22 ส.ค.65 กดเป็นเงินสดได้
  7. ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กต่างๆ จะได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มพีที (ปตท.) 100 บาท ที่ร้านจำหน่ายที่ร่วมโครงการ
  8. เงินพิเศษผู้สูงอายุ 50-100 บาท (ตามเกณฑ์รายได้) โอนเข้าบัตร วันที่ 15 ส.ค.65 กดเป็นเงินสดได้

 

หากต้องการเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 จะต้องลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่อีกครั้ง และสามารถใช้บัตรเดิมต่อได้ ก่อนจะเริ่มใช้บัตรประชาชนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 แต่ถ้าไม่ได้รับสิทธิต่อสามารถใช้สิทธิได้จนถึงวันสุดท้ายก่อนเริ่มโครงการใหม่

 

สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลงทะเบียนและได้รับสิทธิสามารถช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นโครงการฯ เป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดเท่านั้น

 

ทั้งนี้ หากผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประสงค์จะรับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 จะต้องสละสิทธิการเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขอให้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาคืนที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2565 เวลา 16.30 น. (ปิดตามเวลาราชการ) โดยการคืนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังกล่าว ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่สามารถกลับมาขอรับบัตรฯ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และ 2561 ได้อีก นอกจากนี้ การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการลงทะเบียนและสิทธิคงเหลือภายใต้โครงการคนละครึ่งเฟส 5

 

คุณสมบัติผู้ "ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 2565"

  1. มีสัญชาติไทย

  2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 

  3. ไม่เป็นบุคคลดังต่อไปนี้ ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา

รายได้ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

  1. รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี

  2. หากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี 

  3. ทรัพย์สินทางการเงินได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ ของผู้ลงทะเบียนต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาท

  4. หากมีครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน

  5. ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้
    • วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
    • วงเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท

  6. ต้องไม่มีบัตรเครดิต

 

(การคำนวณรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมรายได้ของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)


เงื่อนไขที่อยู่ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่

อสังหาริมทรัพย์ ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

  • กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว
    • ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
          1.1 กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
             - บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา 
             - ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
          1.2 กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
    • ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
          2.1 ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
          2.2 ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่

  • กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว
    • ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
          1.1) กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
                1.1.1) กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดิน ที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
                          กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา 
                1.1.2) กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
                          กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

            1.2) กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่ 

    • ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
          2.1) ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
          2.2) ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่

 

 

 

ข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง