"ไฟเซอร์-โมเดอร์นา" ยอมรับโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ลดประสิทธิภาพวัคซีน
วันนี้ (18 ก.พ.64) บริษัท ไฟเซอร์ ยอมรับเองเมื่อวานนี้ (พุธ) ว่า โควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ สามารถลดประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิด “ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค” ลงมากถึง 2 ใน 3 และยังไม่ชัดเจนว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค จะมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดดังกล่าวนั้น เป็นการศึกษาทดลองในห้องแล็บเท่านั้น แต่ผลการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่เกิดขึ้นจริงๆ นั้น ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่า โควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ส่งผลลดประสิทธิภาพของวัคซีนจริงหรือไม่
นอกจากนี้ ในผลการศึกษาในห้องทดลองล่าสุดดังกล่าวนั้น ยังพบด้วยว่า แม้ว่าโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ อาจลดประสิทธิภาพของวัคซีนของไฟเซอร์ลงอย่างมาก แต่วัคซีนของไฟเซอร์นี้ ก็ยังคงสามารถทำให้ผลการตรวจเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ออกมาเป็นกลางได้ ซึ่งหมายความว่า วัคซีนตัวนี้ยังคงมีประสิทธิภาพเพียงพอ ในการต่อต้านการติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ และช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและลดอาการรุนแรงของผู้ติดเชื้อโควิดลงได้
ไฟเซอร์ ได้เปิดเผยผลการวิจัยในห้องทดลองล่าสุดดังกล่าว ในวารสารการแพทย์ “นิว อิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน” หรือ NEJM ฉบับวันพุธที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ทางบริษัท “โมเดอร์นา อิงค์” ผู้พัฒนาวัคซีนต้านโควิดอีกเจ้า ก็เพิ่งเปิดเผยในวารสารการแพทย์ NEJM ฉบับเดียวกันเมื่อวานนี้ (พุธ) ว่า ผลการทดลองในห้องแล็บล่าสุดพบว่า โควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ลดระดับของแอนติบอดี้ในร่างกาย หลังได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดของโมเดอร์นา โดยลดลงถึง 6 เท่า
อย่างไรก็ตาม โมเดอร์นา ระบุด้วยว่า ประสิทธิภาพที่แท้จริงของวัคซีนต้านโควิดของโมเดอร์น่า ในการใช้จริง ที่ไม่ใช่ในห้องทดลองนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ และทางบริษัทยังคงเชื่อมั่นว่า วัคซีนของตน มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้
ส่วนทางด้านไฟเซอร์ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทกำลังทดลองในห้องแล็บที่คล้ายกันนี้ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนของไฟเซอร์ ต่อโควิดกลายพันธุ์ที่พบในบราซิลด้วย และบริษัทกำลังลงทุนเพิ่ม เพื่อพัฒนาวัคซีนต้านโควิดเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ ให้สามารถป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้ด้วย และได้แจ้งให้แก่หน่วยงานผู้คุมกฎด้านสาธารณสุขของประเทศต่างๆ ทราบแล้วถึงการพัฒนาวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่.