ผบ.ตร.ลั่นเอาจริง! ปราบ “สแกมเมอร์” วาระแห่งชาติ เดินหน้า 8 มาตรการเข้ม

ผบ.ตร.ชู “ปราบสแกมเมอร์” วาระแห่งชาติ เดินหน้า 8 มาตรการเข้มทั่วประเทศ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงจากทุกหน่วยเข้าร่วม ที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ก่อนเริ่มประชุม ผบ.ตร.ได้นำผู้ร่วมประชุมยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นได้กำชับนโยบายสำคัญ “การปราบปรามสแกมเมอร์” ให้เป็นภารกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยประกาศให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

สแกมเมอร์ภัยไซเบอร์รุนแรง – ตำรวจเร่งยกระดับการรับมือ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ปัญหา “สแกมเมอร์” และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นภัยสังคมที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ หลอกลงทุนออนไลน์ ปลอมลิงก์ธนาคาร หรือแอบอ้างหน่วยงานรัฐ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการอย่างเข้มข้น

โดยเฉพาะ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) จะเป็น “กลไกหลัก” ในการขับเคลื่อนงานระดับประเทศ โดยกำหนดให้รายงานผลทุก 7 วัน และ 1 เดือน เพื่อให้เห็นผลรูปธรรมของการปราบปรามสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง

8 ข้อสั่งการสำคัญ “ตำรวจต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน”

 1. ดูแลประชาชนถวายอาลัยฯ

ตำรวจทุกนายต้องอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย และให้บริการด้วยความสุภาพตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

 2. ขับเคลื่อนนโยบาย 6 เร่งรัด

ทุกหน่วยต้องผลักดันโครงการพระราชดำริ งานสอบสวน วินัยจราจร และสวัสดิการตำรวจให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

 3. ยกระดับงานสอบสวนทั่วประเทศ

จัดทำแผนพัฒนา 3 ระยะ – เร่งด่วน ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อยกระดับคุณภาพการทำคดี

 4. เร่งปราบ “สแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์”

ศปอส.ตร. ต้องขับเคลื่อนการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ให้เกิดผลชัดเจน โดยมีการรายงานต่อรัฐบาลอย่างสม่ำเสมอ

 5. ศูนย์อาชญากรรมพิเศษต้องมีผลจริง

รวมผลปฏิบัติทุกศูนย์ เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานและรายงานผลทุกสัปดาห์

 6. เข้มต่างด้าวผิดกฎหมาย

ศูนย์อาชญากรรมข้ามชาติเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมาย

 7. แต่งตั้งตำรวจวาระ 68 โปร่งใสตามกฎหมาย

ทุกขั้นตอนต้องยึดแนวทาง ก.พ.ค.ตร. อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ระบบแต่งตั้งโปร่งใสและเป็นธรรม

 8. ช่วยเหลือตำรวจประสบภัยน้ำท่วมและสาธารณภัย

เร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด

สั่งเดินหน้า “เชิงรุก–เชื่อมทุกภาคส่วน” สกัดสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

ผบ.ตร. ย้ำว่า การปราบสแกมเมอร์ไม่ใช่เพียงการจับกุมผู้กระทำผิด แต่ต้องดำเนินการเชิงรุกทั้งระบบ ตั้งแต่การสืบสวน ป้องกัน ไปจนถึงการให้ความรู้ประชาชน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยประสานงานกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานความมั่นคงด้านดิจิทัล เพื่อปิดช่องทางการโอนเงินที่มิจฉาชีพใช้ในการกระทำผิด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือทางเทคโนโลยี เช่น ระบบ AI ตรวจจับบัญชีต้องสงสัย และฐานข้อมูลกลางเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามเส้นทางการเงินข้ามพรมแดน

“ปราบสแกมเมอร์” ไม่ใช่ภารกิจเฉพาะตำรวจ แต่คือภารกิจชาติ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวปิดประชุมว่า ตำรวจทุกนายต้องทำงานอย่างมีหัวใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลประชาชนให้ปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ เพราะการปราบสแกมเมอร์ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจเท่านั้น แต่เป็น “ภารกิจร่วมของทุกคนในประเทศ” เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย โปร่งใส และน่าเชื่อถือ