โลกร้อนสะเทือน “บอลโลก” อันตรายต่อนักกีฬา-ผู้ชม ฟีฟ่า ไฟเขียวพักดื่มน้ำระหว่างการแข่ง

นับถอยหลังไม่ถึงหกเดือนก่อนการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 (FIFA World Cup 2026) จะเปิดฉากขึ้นในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา แต่สิ่งที่ผู้จัดการแข่งขันกำลังกังวลมากที่สุดอาจไม่ใช่เรื่องทีมตัวเต็งหรือผลการแข่งขัน แต่เป็นสภาพอากาศร้อนจัดและคลื่นความร้อนที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากภาวะโลกร้อน อุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นในหลายเมืองสร้างความกังวลด้านความปลอดภัยของนักเตะ เจ้าหน้าที่ และแฟนบอล
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Biometeorology เมื่อเดือนมกราคม เตือนถึง “ความกังวลอย่างร้ายแรง” ต่อสุขภาพของนักเตะและผู้ตัดสินในฟุตบอลโลก 2026 จากสภาพอากาศร้อนจัด โดย 6 เมือง ได้แก่ มอนเตร์เรย์ ไมอามี แคนซัสซิตี บอสตัน นิวยอร์ก และฟิลาเดลเฟีย มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อน และมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ
สนาม SoFi Stadium ในอเมริกาเป็นหนึ่งในสนามที่ใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกถึง 8 นัด ภายในสนามมีการจัดเตรียมพัดลมพ่นละอองน้ำอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กว่า 15 ตัว สำหรับใช้งานเมื่ออุณหภูมิสูงเกิน 26.7 องศาเซลเซียส หลังคาที่แขวนอยู่สูงจากพื้นสนามราว 45 เมตร ช่วยให้ผู้ชมได้รับร่มเงา ขณะที่ช่องเปิดขนาดใหญ่รอบสนามเปิดรับลมจากมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วยสร้างการถ่ายเทอากาศตามธรรมชาติ คล้ายระบบปรับอากาศจากธรรมชาติ
ด้านสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ FIFA ได้ออกข้อกำหนดให้มีช่วง “คูลลิ่งเบรก” เพื่อให้นักกีฬาได้พักดื่มน้ำในนาทีที่ 22 และ 67 ของทุกนัดการแข่งขัน โดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ นอกจากนี้การแข่งขันในช่วงกลางวันจะถูกจัดแข่งขันในสนามที่มีเครื่องปรับอากาศ ส่วนสนามที่มีความเสี่ยงต่อคลื่นความร้อนจะใช้จัดการแข่งขันในตอนเย็นแทน
ฟุตบอลโลก 2026 ที่กำลังจะจัดขึ้นเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนว่า ภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศสุดขั้วส่งผลกระทบต่อการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกในอนาคต ไม่เพียงแค่เรื่องของตารางแข่งขันหรือโครงสร้างสนาม แต่รวมถึงความปลอดภัยของผู้คนหลายแสนชีวิต ดังนั้นการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ยังเกี่ยวข้องกับทุกมิติรอบด้านอีกด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
