ไทยแลนด์โอนลี่! ควายทะเลเกาะสุกร หนึ่งเดียวในประเทศ
วันนี้ ( 22 มิ.ย. 63 )ที่เกาะสุกร ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ฝูงควายพื้นบ้านบนเกาะสุกร ประมาณ 300 ตัว จะลงไปเล่นน้ำทะเลเพื่อคลายร้อน ตลอดแนวชายหาด โดยเฉพาะบริเวณตลอดแนวชายหาดแตงโม หมู่ที่ 2 บ้านแหลม และหมู่ที่ 3 บ้านทุ่ง หรือทางด้านทิศใต้ของเกาะสุกร ควายที่มีอยู่ประมาณ 5 ฝูง สามารถพบเห็นได้เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย จะทยอยกันลงไปเล่นน้ำทะเล วันละ 2 รอบ คือ ตอนเช้าตรู่ ตั้งแต่เวลา ตี 5 และตอนเย็นพลบค่ำ 6 โมงเย็น ช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และก่อนพระอาทิตย์ตก ฝูงควายจะเดินเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ลงเล่นน้ำทะเล โดยไม่สนใจสายตาของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปชมหรือถ่ายภาพ
เกาะสุกรหรือเกาะหมู มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ จ.ตรัง เป็นตำบลหนึ่งของ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เป็นเกาะที่มีประชาชน อาศัยอยู่บนเกาะ ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 90% จะเป็นชาวมุสลิม ที่สำคัญหมู่เกาะแห่งนี้ มีความสวยงามทั้งทางด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นอรรถลักษณ์ของตนเองที่มีความโดดเด่นนอกจากจะมีของดีอยู่อย่างมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตแบบชุมชนแล้ว ยังมีควายพื้นบ้านมากที่สุด อีกมหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย นครศรีธรรมราช คณะสัตวแพทย์ ได้ลงมาทำโครงการพัฒนาและอนุรักษ์สายพันธุ์ควายที่เกาะแห่งนี้ ให้มีความแข็งแรง
จุดสนใจควายที่ใช้ชีวิตในทะเล เป็น ไทยแลนด์โอลี่ เพียงเกาะเดียวใน จ.ตรัง ทำให้นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจต้องนั่งเรือข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาชมกันควายที่เกาะแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรคือข้าว
ทุกปีชาวบ้านบนเกาะสุกรจะมีพิธีที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อ และถือเป็นหนึ่งเดียวในโลก นั่นคือ “ประเพณีวันปล่อยควายเกาะสุกร” หรือที่เรียกกันว่า “ฤดูปล่อยควาย” ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปีแล้ว โดยชาวบ้านจะทำในช่วงฤดูกาลหยุดทำการเกษตรปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ประเพณีปล่อยควาย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ควายได้อยู่ร่วมกันเป็นอิสระตามธรรมชาติ
ซึ่งควายแต่ละตัวจะเลือกเข้าฝูงของตัวเองตามธรรมชาติ โดยมีจ่าฝูงแต่ละฝูง และถือเป็นโอกาสให้ควายได้มีการผสมพันธุ์กันโดยไม่ต้องไปจัดหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากที่อื่น โดยกำหนดตามระยะเวลาที่ปล่อยควายจนกว่า จะเริ่มฤดูการทำนาใหม่ จะประกาศให้เจ้าของนำควายกลับไปเลี้ยง ทั้งนี้ คนที่เป็นเจ้าของควายจะสามารถจำควายที่ตนเองเลี้ยงไว้ได้ และไม่เคยมีปัญหาในการจับผิดตัว
นอกจากนี้ เกาะสุกรยังมีชายหาดที่สวยงาม การทำประมงพื้นบ้าน การทำนาบนเกาะ การปลูกแตงโมที่มีชื่อเสียงมาช้านาน รสชาติหวานกรอบ ทั้งยังมีเส้นทางปั่นจักรยาน ที่มีความโรแมนติกที่สุด
นอกจากการเลี้ยงควายที่มีมากกว่า 300 ตัว และพบว่ายังมีฝูงวัวอยู่ด้วยที่บริเวณริมทะเล ซึ่งจะอยู่ปะปนกันกับฝูงควาย เมื่อมองออกไปฝั่งทะเลจะเห็นภาพที่ฝูงควายอยู่กันเป็นระเบียบ ถือเป็นไฮไลต์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเกาะสุกรให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
ด้านนายองอาจ ภัทรดำรงเกียรติ ชาวบ้านเกาะสุกร บอกว่า ชาวนาได้ปล่อยควายในช่วงฤดูสิ้นการเก็บเกี่ยวข้าวและแตงโมประมาณกลางปี โดยชาวบ้านที่เลี้ยงควายจะเริ่มปล่อยควายออกมาโดยจะปล่อยลงทุ่งนาและพวกควายจะเริ่มรวมตัวกันเป็นฝูงและจะมาเล่นน้ำกันที่บริเวณชายทะเลในช่วงเช้าตรู่ และในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ควายจะเดินไปเป็นฝูงเพื่อเล็มหญ้าในทุ่ง
ในช่วงนี้จึงถือเป็นฤดูกาลดูควายทะเล จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม ทั้งนี้สามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกพร้อมกับชมควายทะเลเกาะสุกรและวิถีชุมชนของชาวบ้าน เกาะสุกร จะมีอีกชื่อ ว่า เกาะหมู แต่ไม่มีหมู แต่มีควายทะเล หากนักท่องเที่ยวสนใจจะมาเที่ยวดูควาย ตอนเย็นๆ 5-6 โมงเย็น ควายจะลงมานอนแช่น้ำในทะเล และตอนเช้าประมาณ ตี 5-6 โมงเช้า ควายจะนอนเล่นน้ำอยู่ริมชายหาด สามารถมาดูได้ตลอดทั้งแนวชายหาด และชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามมาก
เกาะสุกรเป็นเกาะแบบวิถีชุมชนชาวบ้านบนเกาะอยู่กันแบบ และในช่วงนี้ทางเกาะสุกรเปิดเกาะให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวที่เกาะสุกรหลังจากปิดเกาะในช่วงโควิด มา2-3เดือน โดยนั่งรถมาจากตัวเมืองตรัง ประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงท่าเรือตะเส๊ะ และนั่งเรือลงมายังเกาะสุกร ค่าเรือคนละ 30 บาทโดยใช้เวลานั่งเรือประมาณ 15 นาทีก็ถึงที่ท่าเรือเกาะสุกรแล้ว
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline