รีเซต

ผลศึกษาแอนติบอดี "Evusheld" ป้องกันโควิดในผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง!

ผลศึกษาแอนติบอดี "Evusheld" ป้องกันโควิดในผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง!
TNN ช่อง16
18 มิถุนายน 2565 ( 15:32 )
84

วันนี้( 18 มิ.ย.65) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิระดับ 11) ในฐานะประธานคณะกรรมการ MIU กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วัคซีนโควิด 19 เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคส่วน Evusheld เป็นแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวสองชนิด ได้แก่ tixagevimab และ cilgavimab ได้รับการขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉินสำหรับป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 ในผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนธันวาคม 2564 และยุโรปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 


โดยมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องปานกลางถึงรุนแรง ที่อาจตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนโควิดได้ไม่ดีหรือคนที่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีน หรือไม่ยอมฉีดวัคซีน แต่พบว่ามีราคาสูงและยังไม่มีการศึกษาเรื่องความคุ้มค่าของการให้ Evusheld ในการป้องกันโรคโควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ คณะกรรมการ MIU 


โดยทีมวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ร่วมกับกรมควบคุมโรค จึงได้ดำเนินการศึกษาการประเมินความคุ้มค่าของ Evusheld สำหรับป้องกันโควิด 19 ในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในประเทศไทยโดยใช้แบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ในการทำนายต้นทุน และผลลัพธ์ทางสุขภาพของการให้ Evusheld ในผู้ป่วย 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยล้างไต ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ และผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องภูมิคุ้มกันของตนเอง (autoimmune diseases) โดยอ้างอิงข้อมูลจากการวิจัยเชิงทดลอง PROVENT trial และข้อมูลผู้ป่วยจริงในประเทศไทย


นพ.รุ่งเรืองกล่าวต่อว่า งานวิจัยนี้พบว่า Evusheld สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 การป่วยหนักและเสียชีวิตในผู้ป่วยทั้ง 3 กลุ่มในระยะเวลา 6 เดือนได้ นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองระดับภูมิคุ้มกันก่อนให้ Evusheld จะทำให้การใช้ Evusheld ในผู้ป่วยมีความคุ้มค่ามากขึ้น อีกทั้งยังลดภาระงบประมาณในการจัดซื้อ Evusheld ได้มากกว่าครึ่ง ขณะที่ราคา Evusheld ที่ใช้ในแบบจำลองเท่ากับ 25,000-29,000 บาทต่อคน สำหรับระยะเวลา 6 เดือนทำให้ Evusheld มีความคุ้มคำสำหรับผู้ป่วยล้างไต และหากต้องการให้ Evusheld มีความคุ้มค่าในบริบทประเทศไทย รัฐบาลควรต่อรองราคาให้เหลือ 15,000 บาทสำหรับใช้ในผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ และ 7,800 บาทสำหรับใช้ในผู้ป่วยเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันตนเอง


ในอนาคต จำเป็นต้องมีระบบติดตามผู้ป่วยหลังได้รับ Evusheld เพื่อประเมินระดับของแอนติบอดีในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสในร่างกายกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่พบในประเทศไทยเป็นระยะ นอกจากนี้ การทำสัญญาจัดซื้อ Evusheld ควรทำในระยะสั้น หรือมีเงื่อนไขในการยกเลิกการซื้ในสถานการณ์ที่เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่เกิดการหลบหลีกภูมิต้านทานจาก Evusheld ซึ่งได้รายงานให้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข รับทราบรายงานผลการศึกษาแล้ว จะได้เตรียมความพร้อมในการนำมาใช้ในประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยต่อไป 





ที่มา กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจาก สธ./AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง