DJI เผยโฉม Matrice 350 RTK ราชาแห่งโดรนระดับอุตสาหกรรม ที่สุดของคำว่าเรือธง !
ก่อนหน้านี้ในปี 2020 ดีเจไอ (DJI) บริษัทผู้ผลิตโดรนจากจีน ได้เปิดตัว MATRICE 300 RTK โดรนระดับเอนเทอร์ไพรส์ (Enterprise) ตัวเรือธง (Flagship) ซึ่งโดรนระดับเอนเทอร์ไพรส์ เป็นโดรนคุณภาพสูงระดับที่นิยมในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และการทำงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ด้วยความสามารถในการทำงานในสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมสุดขั้ว และขึ้นชื่อด้านศักยภาพในการติดตั้งกล้องและเลนส์ให้เหมาะสมตามรูปแบบของงาน
DJI Matrice 300 RTK
จนกระทั่งล่าสุด DJI เปิดตัวโดรน Matrice 350 RTK รุ่นต่อยอด ที่เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการทนทานต่อสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมต่อการบิน รวมถึงเพิ่มความสามารถในการรับสัญญาณดาวเทียม และเพิ่มศักยภาพในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างโดรนและรีโมตควบคุมไปอีกระดับ
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของโดรน DJI MATRICE 300 RTK รุ่นก่อนหน้านี้ มีดังต่อไปนี้
- ความแม่นยำในการวัดระยะ และขนาดของวัตถุ 1 เซนติเมตร ในแนวขวางและ 1.5 เซนติเมตร ในแนวตั้ง
- ความเร็วในการบินสูงสุด 23 เมตรต่อวินาที บินได้นานสูงสุด 55 นาที
- รองรับการใช้งานร่วมกับ DJI Gimbals
- อุณหภูมิที่โดรนสามารถทำงานได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 50°C
- มีระบบอุ่นแบตเตอรี่ในตัว เพื่อให้โดรนยังคงทำงานได้อย่างดีที่อุณหภูมิสูง
- กันฝุ่น กันละอองน้ำได้ (IP45 Rating)
- พัฒนาระบบส่งสัญญาณได้ไกลสูงสุด 15 กิโลเมตร โดยสามารถสลับสัญญาณระหว่าง 2.4 GHz และ 5.8 GHz ได้อัตโนมัติ
- บินได้อย่างปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์รอบตัว 6 ทิศทาง ทำให้มั่นใจว่าในการบินหรือการควบคุมโดรนจะไม่ไปวิ่งชนอะไรโดยไม่ตั้งใจ
ขณะที่โดรนระดับ Enterprise ตัวใหม่ล่าสุดที่ DJI พึ่งเปิดตัวในชื่อรุ่น Matrice 350 RTK ถูกยกระดับครั้งใหญ่ ด้วยโมเดลของแบตเตอรี่ที่ทนทาน เปลี่ยนใช้งานได้ไวกว่าเดิม และเจ๋งยิ่งขึ้น ด้วยรูปร่างโครงสร้างและการรับน้ำหนักอุปกรณ์เสริมที่รับได้มากถึง 9 กิโลกรัม ระบบภาพ การส่งสัญญาณ และการวัดขนาดวัตถุและพื้นที่ได้อย่างแม่นยำตัวโดรนกันฝุ่นกันละอองน้ำบินได้อย่างปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์รอบทิศทางที่ตรวจจับได้ละเอียดยิ่งกว่าเดิม DJI Matrice 350 RTK ยังมีระบบตรวจสอบคุณภาพการทำงานของโดรน ด้วยการบ่งบอกแถบสีถึงประสิทธิภาพในการทำงานของโดรนแต่ละจุด (UAV Health Management System) รวมทั้งสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อให้โดรนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
DJI Matrice 350 RTK
ส่วนสเปกที่เปลี่ยนแปลงไป มีดังนี้
- มีการอัปเกรด Battery เปลี่ยนจาก TB60 เป็น TB65 ชาร์จได้นานถึง 400 รอบ
- Remote Controller เปลี่ยนจาก DJI Smart Controller เป็น DJI RC Plus
- ส่งสัญญาณได้ไกลมากขึ้นจาก 15 กิโลเมตร เป็น 20 กิโลเมตร
- ป้องกันฝุ่นและป้องกันน้ำ จาก IP45 เป็น IP55 กันน้ำทรงพลังขึ้นอีกระดับ
- มีการยกระดับใบพัด (Propeller) เป็นแบบใหม่
- กล้อง Night Vision FPV เปลี่ยนจาก 960p เป็น 1080p คมชัดยิ่งขึ้น
- ระบบส่งสัญญาณ GNSS&RTK Module พัฒนาให้มีการรับส่งสัญญาณได้ดีขึ้น ด้วย GPS L5 Supported
- Arm Lock Detection โดยจะไม่สามารถขึ้นบินได้ ถ้าหากลืมปลดล็อค
- Payloads หรือกล้องที่รองรับของ DJI ในรูปแบบงานที่แตกต่างกัน ได้แก่ Zenmuse H20, Zenmuse H20T, Zenmuse H20N, Zenmuse P1 และ Zenmuse L1
ส่วนสิ่งที่ยังคงใช้งานร่วมกันกับรุ่น 300 RTK ได้แก่
- แบตเตอรี่เก่าและใหม่สามารถชาร์จใน Station ใดก็ได้ (แต่ต้องทำการอัปเดทเป็น Firmware ล่าสุดก่อน)
อุปกรณ์โดรนลำนี้ได้ถูกอัปเกรดขึ้นมานั้น จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานสำรวจเหมือง, งานรังวัดด้วยโดรน, งานตรวจสอบด้วยกล้อง Thermal (กล้องจับความร้อน), งานทำแผนที่ด้วยโดรน, งานกู้ภัยช่วยเหลือด้วยโดรน และงานอื่น ๆ อีกมากมายที่ใช้โดรนทำงาน จะถูกยกระดับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
สำหรับใครที่สนใจนำโดรนไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรมเบื้องต้น DJI 350RTK เปิดตัวมาในราคา 11,540 ดอลลาร์สหรัฐ หากแปลงเป็นเงินไทย จะมีราคาเบื้องต้น 400,000 บาทเป็นต้นไป โดยยังไม่รวมภาษีนำเข้า
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ DJI