CGSI ส่อง "CRC" โอกาสเข้าซื้อ มองความเสี่ยง-ผลตอบแทนน่าสนใจ

#ทันหุ้น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ราคาหุ้น CRC ปรับตัวลง 16% ในเวลาเพียง 14 วัน หลังจากขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 แม้ว่า CRC จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 3 พันล้านบาทในไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้น 14% yoy และ 82% qoq สูงกว่าประมาณการของ Bloomberg consensus 4% แต่สอดคล้องกับที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯคาดการณ์
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ เชื่อว่า นักลงทุนยังคงกังวลกับกำไรที่น่าจะเติบโตต่ำช่วงปี 68-69 เนื่องจาก CRC ปรับลดการขยายสาขาลง จากความต้องการสินค้า Home improvement ที่อ่อนตัว ซึ่งกระทบโดยตรงต่อร้านไทวัสดุ (TWD) ซึ่งมีสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของกำไรสุทธิของ CRC ในปี 66
นอกจากนี้ การที่บริษัทแลกหุ้น (share swap) จากบริษัท แกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) เป็นหุ้นของ Grab Holdings Limited ยังส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีจากการรับรู้รายได้ตามส่วนได้เสีย (equity income) มาเป็นการประเมินมูลค่าด้วยวิธีการ mark-to-market ซึ่งประเมินว่าจะทำให้ส่วนแบ่งรายได้หายไป 300 ล้านบาทต่อปี
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เห็นความท้าทายในระยะสั้นของ CRC โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะอยู่ที่ -4% ในเดือนม.ค.-ก.พ.68 เพราะความต้องการสินค้า Home improvement ในไทยยังซบเซา, ยอดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคในไทยและเวียดนามอ่อนตัว อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนมียอดซื้อสินค้าในอิตาลีลดลง
นอกจากนี้ คาดว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดองของเวียดนามและยูโรทำให้ SSSG ในรูปเงินบาทลดลงเพิ่มอีก 7-8% pts ในเดือนม.ค.-ก.พ.68 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า CRC จะยังมีกำไรปกติเติบโต 7% ในปี 68 นี้ จากอัตรากำไรที่สูงขึ้นของ TWD และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ส่วนปี 69 นั้นคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตในอัตราเร่งตัวขึ้น หนุนโดยความต้องการสินค้า Home improvement ที่ฟื้นตัว หลังเริ่มรับรู้ผลดีจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงต่อเนื่อง จึงประมาณการว่ากำไรปกติของ CRC จะเติบโต 14% ในปี 69
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการกำไรปกติในปี 68 และ 69 ลง 3.9% แล 2.0% ตามลำดับ รวมทั้งปรับลดราคาเป้าหมายตามวิธี DCF เป็น 34.50 บาท จากเดิม 37 บาท สะท้อนผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท, อัตรากำไรของธุรกิจอาหารที่อ่อนตัวกว่าคาดจากการแข่งขัน รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง หลังดีลแลกหุ้น Grab
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะรับรู้ปัจจัยลบเหล่านี้แล้ว เห็นได้จากการที่ CRC ซื้อขายที่P/E เพียง 19.8 เท่า ในปี 68 (-1.5SD ของค่าเฉลี่ยสามปี) ซึ่งมองว่าเป็นจุดกลับเข้าซื้อที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นต่อศักยภาพเติบโตระยะยาวของ CRC เพราะบริษัทมีร้านค้าปลีกหลายรูปแบบในตลาดที่หลากหลาย อีกทั้งความเสี่ยง-ผลตอบแทนในขณะนี้ยังเหมาะสม จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก”ถือ”
โดยมองว่าบริษัทจะมี downside risk หากตลาด Home improvement อ่อนตัวต่อเนื่อง และการแข่งขันรุนแรงขึ้น ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนคือการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมและยอดซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น