FMส่งไก่แปรรูปลุยตลาดยูเออี กำแพงภาษีสหรัฐไร้ผลกระทบ

#FM #ทันหุ้น -FM เดินหน้าเต็มกำลัง ไม่กระทบทรัมป์ขึ้นภาษี ประกาศขยายธุรกิจปลายน้ำโดยเน้นการลงทุนในโรงชำแหละและโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก พร้อมชูจุดแข็งด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่อยู่ในระดับต่ำและดีมานด์เนื้อไก่โลกที่เพิ่มสูงขึ้น มั่นใจปัจจัยบวกเหล่านี้จะช่วยผลักดันยอดขายแตะระดับ 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า

นายณัฐพล  ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด โมเม้นตัม จำกัด (มหาชน) หรือ FM ผู้นำการพัฒนาอาหารแปรรูปปรุงสุกจากเนื้อไก่ (CAV Products) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นธุรกิจไก่แปรรูปเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แม้ว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดไก่จะเผชิญความผันผวน แต่ FM ยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

สำหรับแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปีนี้ คาดว่าราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักราว 50% ของต้นทุนการผลิตอาหารไก่ จะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถานการณ์โรคไข้หวัดนกที่แพร่ระบาดในประเทศผู้ผลิตไก่รายใหญ่ เช่น สหรัฐ และกลุ่มประเทศโปแลนด์ ส่งผลให้ปริมาณไก่ในตลาดโลกลดลง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ผลิตไก่ไทยในการขยายตลาดส่งออก

*ทรัมป์ขึ้นภาษี ไม่กระทบ

แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ โดยเฉพาะกรณีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจกลับมาขึ้นภาษีนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ แต่ FM ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่มีสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ ทำให้บริษัทสามารถเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ได้อย่างเต็มที่

ขณะที่ความต้องการเนื้อไก่ทั่วโลกยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าไก่แปรรูปพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) ที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ FM ได้เริ่มขยายตลาดส่งออกไปยังอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และมีแผนขยายตลาดไปยังฟิลิปปินส์ในปีนี้ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง แม้จะเป็นความท้าทาย แต่บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเจาะตลาดได้ด้วยการนำเสนอโซลูชันและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

ปัจจุบัน มีคำสั่งซื้อเนื้อไก่ดิบแช่แข็งจากทางตลาด UAE เข้ามาแล้ว และคาดว่าจะเริ่มมีคำสั่งซื้อไก่แปรรูปภายในปีนี้ ซึ่งรายได้ของ FM มาจากการส่งออกและยอดขายในประเทศในสัดส่วน 50:50 โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเป็น 65% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ลงทุนต่อเนื่อง

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ FM เตรียมงบลงทุน 300-400 ล้านบาท โดยบางส่วนจะนำไปขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มอีก 10% พร้อมทั้งลงทุนในระบบ Automation สำหรับโรงชำแหละ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน

นอกจากนี้ บริษัทกำลังศึกษาการรุกเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งถือเป็นธุรกิจต่อเนื่องที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ไก่ โดยมีทั้งแนวทางการร่วมทุนกับผู้ผลิตรายเดิมและการสร้างโรงงานเอง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีนี้

ตั้งเป้ายอดขายหมื่นล้านใน 3 ปี

ทั้งนี้ FM ตั้งเป้ายอดขายแตะระดับ 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะมาจากการเติบโตของธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกประมาณ 60-70% และธุรกิจโรงชำแหละประมาณ 20%

บริษัทวางกลยุทธ์เติบโตไปพร้อมกับฐานลูกค้าเดิมราว 4% ต่อปี และเพิ่มยอดขายจากลูกค้ารายใหม่อีก 13% ต่อปี แม้เป้าหมายดังกล่าวจะท้าทาย แต่ FM มั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างรอบคอบและโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ

ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจาก เนื้อไก่สด 60% และผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป โดยเป็นรายได้จากภายในประเทศ 50% และการส่งออกอีก 50% ซึ่งตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ฝั่งยุโรป 22%, ประเทศญี่ปุ่น 15%, ประเทศจีน 8%, ประเทศมาเลเซีย 4% และเป็นประเทศอื่นๆ 1%

ในภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2568 ประเทศไทยยังเป็นผู้นำในตลาดส่งออกสัตว์ปีกระดับโลก โดยเป็นอันดับ 4 ในการส่งออกไก่สด คิดเป็น 5% ของการส่งออกทั่วโลก และเป็นอันดับ 1 ในการส่งออกไก่แปรรูป คิดเป็น 28% ของการส่งออกทั่วโลก ซึ่งยังคงมีความต้องการไก่ไทยอย่างต่อเนื่อง