หนุ่มจัดเต็ม รีวิวประสบการณ์เกณฑ์ทหาร เผยเป็น 1 ปีที่น่าจะตกต่ำสุดในชีวิต ไม่รู้สึกถึงการรับใช้ชาติแม้แต่น้อย
ท่ามกลางกระแสการรณรงค์ให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เพิ่งผ่านการเกณฑ์ทหาร ได้เล่าประสบการณ์การเข้าไปเป็นทหาร พร้อมกับพบเจอสภาพแวดล้อมที่ทำให้บั่นทอนจิตใจมากมาย ขณะเดียวกันยังได้โพสต์รูป “แมว” พร้อมกล่าวว่า ใส่แมวเพื่อเพิ่มความซอฟต์ให้คอนเทนต์
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ระบุว่า หมดสิ้นเวรกรรมซักทีนะ วันนี้เมื่อปีที่แล้วต้องเข้าไปเป็นทหารกองประจำการ ทำให้ต้องทิ้งทุกอย่างตรงหน้า และเข้าไปอยู่ในค่ายและทำการ “รับใช้ชาติ” ให้ครบตามเวลาที่กำหนดไว้ ตอนนั้นเลือกที่จะบอกคนรอบข้างเท่าที่จำเป็นว่าต้องไป เพราะไม่รู้ว่าบอกไปแล้วจะเป็นผลดีหรือผลร้ายมากกว่ากัน วันนี้ที่เรื่องมันจบสิ้นแล้วเลยมาบอกให้รู้ว่าที่ผ่านมาทำไมถึงไม่ค่อยว่างไปหาเพื่อนนะ
เป็น 1 ปีที่น่าจะตกต่ำที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาในทุกๆ ด้านทุกมิติเลย ที่เริ่มตั้งแต่ต้องออกจากงานที่ทำอยู่แล้วกำลังไปได้ดีด้วย และพลาดโอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตตลอด 1 ปี 7 เดือนที่ผ่านไปนั้น (เกณฑ์ตั้งแต่เมษา 62 โดนผลัด 2 ต้องไปตอนพฤศจิกา ระหว่างนั้น 7 เดือนก็ย้ายงานไปที่ที่ดีกว่าเดิมที่มีเพื่อนมาชวนไปทำไม่ได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าติดทหาร และพอเริ่มเข้าไปก็ต้องเจอการฝึกพื้นฐานทางทหารนาน 10 สัปดาห์ที่เต็มไปด้วยเรื่องแย่และบั่นทอนจิตใจมากมาย ซึ่งเป็นการฝึกที่ทั้งเหนื่อย ทั้งทรมานที่เต็มไปด้วยเรื่องไร้เหตุผล และการฝึกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต่อการเป็นทหารอย่างที่เคยเข้าใจไว้เลย
และในตลอด 10 สัปดาห์นี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกมากมายที่ไม่สามารถสรุปได้เป็นข้อความสั้นๆ ภายในโพสต์นี้ แต่สุดท้ายก็ผ่านมันไปจนได้ แต่หลังการฝึกมันก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องบั่นทอนจิตใจมากมายอยู่ดี
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาที่ได้เจอกับสังคมผู้คนที่แปลกใหม่ เจอกับความคิดแปลกๆ ทัศนคติแปลกๆ จากสภาพแวดล้อมใหม่นี้ เจอความท้าทายที่ต้องพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ให้ได้ กลุ่มคนที่โดนบังคับเข้ามาอยู่ด้วยกันซึ่งมากกว่า 50% เรียนจบมาแค่ประถม หลายคนมีลูกแล้ว (บางคนมีแล้ว 3) มีไม่น้อยที่เคยใช้ยาเสพติดหรือเคยติดคุก ซึ่งทำให้มันยากเข้าไปใหญ่ที่จะปรับตัวให้เข้ากับพวกเขาและคุยกันให้รู้เรื่อง โชคดีหน่อยที่ถูกดึงตัวให้ไปทำงานฝ่ายเอกสารเนื่องจากเรียนสูงกว่าชาวบ้านเขาและอ่านออกเขียนได้ใช้คอมเป็น(หาคนเป็นยากมาก) ทำให้ไม่ได้เจอกับการใช้แรงงานมากมายอย่างที่คนอื่นเจอ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่โดนใช้แรงงานเลยนะ) ส่วนพวกหมู่จ่าที่ต้องเจอก็เต็มไปด้วยทัศนคติแปลกๆ ไม่แพ้พลทหารเช่นกัน และแม่งทำให้อะไรหลายๆ อย่างยากขึ้นไปอีกมากเลย
ตลอด 1 ปีที่เสียไปนั้นเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่มากมาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นเรื่องแย่เกือบทั้งหมด เป็น 1 ปีที่ไม่ได้รู้สึกถึงการรับใช้ชาติเลยแม้แต่น้อย เว้นเสียแต่ว่าคุณนิยามว่า ‘ชาติ = ค่ายทหาร’ เพราะเจอแต่งานการเก็บกวาดพื้นที่ในค่ายให้เรียบร้อยที่ไม่จบไม่สิ้น และงานเอกสารที่ต้องทำก็โคตรจะ bullshit เลย บางทีก็มีคำถามขึ้นมาในหัวว่า “เกณฑ์กูมาเพื่อเดินส่งเอกสารเบิกค่าเทอมให้ลูกจ่าที่ไหนไม่รู้เนี่ยนะ?” แล้วพอเห็นเงินเดือนที่ได้ยิ่งหดหู่กับชีวิตไปใหญ่ เพราะได้น้อยลงกว่างานที่ทำ 4 เท่าได้ เจอกับการถูกเพ่งเล็งและหาเรื่องเพียงเพราะรู้ว่าเรียนจบจุฬา และด้วยความไม่รู้ของคนอื่นว่าที่เรียนจบมานั้นเกี่ยวกับอะไรก็ทำให้เจอกับอะไรชวนปวดประสาทมากกว่าที่คิดซึ่งมันน่าหงุดหงิดมากๆ เลย ถ้าไม่ต้องมาเป็นทหารคงไม่ได้เจอประสบการณ์แย่ๆ ในชีวิตเยอะขนาดนี้หรอก
สุดท้ายนี้ก็คงไม่ขอขอบคุณกองทัพบกและหน่วยที่อยู่นะครับ เพราะรู้สึกว่าเสียอะไรไปมากกว่าสิ่งที่ได้มาเยอะมากเลย และก็ไม่ขอบคุณตัวเองที่ทนกับอะไรที่ต้องเจอมาตลอด 1 ปีมาได้แล้วกัน เพราะรู้สึกว่าล้มเหลวกับการจัดการอารมณ์ต่อเรื่องปสดนี่เยอะเกินไปและน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ขอขอบคุณครอบครัวและคนรอบตัวทุกคนที่ยอมทนฟังเราระบายเรื่องที่เจอให้ฟัง เพื่อไม่ให้บ้าตายไปก่อนจะปลดนะ ทั้งที่เต็มใจฟังหรือไม่เต็มใจก็ตาม และขอขอบคุณ youtube music กับวงดนตรีทุกวงที่ได้เปิดฟังเพื่อประคับประคองจิตใจให้ผ่านช่วงแย่ๆ ไปได้
เป็น 1 ปีที่รู้สึกสูญเปล่าและน่าเสียดายมากครับ
อาชีพทหารจำเป็นต้องมีต่อไป แต่ส่วนของทหารเกณฑ์นั้นไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ได้ถ้าจะเกณฑ์ให้ไปทำอะไรแบบนี้
พร้อมติดแฮชแท็ก GetBackToLife, ยังว่างอยู่แนะนำงานมาได้ครับ, งดแซวเรื่องทรงผมนะครับ, หยุดวาทกรรมรับใช้ชาติ, เป็นทหารสูญเสียอะไรมากกว่าที่คิด, ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)