Ripple เปิดตัว Ripple Payments ใน UAE หนุนระบบโอนเงินเร็ว-โปร่งใส-ต้นทุนต่ำ

#Ripple #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก Cointelegraph ได้ระบุว่า บริษัท Ripple ซึ่งเป็นผู้สร้างคริปโตเคอร์เรนซี XRP (มูลค่า 2.37 ดอลลาร์) ได้เปิดตัวระบบการชำระเงินผ่านบล็อกเชนแบบข้ามพรมแดนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่อาจช่วยกระตุ้นการนำคริปโตมาใช้อย่างกว้างขวางในประเทศที่เปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอย่างดี
ตามประกาศของ Ripple เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 Zand Bank ซึ่งเป็นธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของ UAE และบริษัทฟินเทค Mamo ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลสำหรับธุรกิจ จะเป็นผู้ใช้งานหลักของระบบชำระเงินดังกล่าว โดยทั้งสององค์กรจะใช้แพลตฟอร์ม “Ripple Payments” เพื่อดำเนินธุรกรรมการชำระเงินข้ามประเทศผ่านบล็อกเชน
Ripple Payments เป็นแพลตฟอร์มที่รวมการใช้ Stablecoin, คริปโต และสกุลเงินทั่วไป (Fiat) เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความเร็วในการชำระเงินและการชำระบัญชี ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของ Web3 ที่ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนแบบดั้งเดิมมักขาด
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Ripple ได้รับใบอนุญาตในการให้บริการชำระเงินด้วยคริปโตจาก Dubai Financial Services Authority (DFSA) ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการได้อย่างถูกต้องในตลาดตะวันออกกลาง
Reece Merrick กรรมการผู้จัดการของ Ripple ประจำตะวันออกกลางและแอฟริกา ระบุว่า ใบอนุญาตนี้จะช่วยให้ Ripple สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการแก้ไขปัญหาของระบบชำระเงินข้ามประเทศแบบดั้งเดิม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมสูง ระยะเวลาการโอนเงินที่ยาวนาน และขาดความโปร่งใส โดยเฉพาะในตลาดที่เป็นศูนย์กลางของการโอนเงินระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง UAE
UAE ติดอันดับ56 จาก 151 ประเทศในการยอมรับคริปโต
จากรายงานของ Chainalysis แพลตฟอร์มข้อมูลด้านบล็อกเชนในปี2024 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อยู่ในอันดับที่56 จากทั้งหมด151 ประเทศในด้านการยอมรับคริปโต โดยประเทศนี้มีคะแนนสูงในด้านการใช้งานDeFi, Stablecoin และAltcoin
ขณะเดียวกัน ประเทศนี้ก็มีความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้คะแนนสูงขึ้นในอนาคต โดยเอมิเรตส์ต่าง ๆ เช่น อาบูดาบี และ ดูไบ พยายามสร้างตัวเองให้เป็นศูนย์กลางของคริปโตในภูมิภาค
ในเดือนธันวาคม 2024 เหรียญ Stablecoin อย่าง Tether (USDT) ได้รับการยอมรับให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกต้องในอาบูดาบี ส่วนในปี2025 เหรียญ USDC และ EURC ของบริษัท Circle ก็กลายเป็น Stablecoin กลุ่มแรกที่ได้รับการยอมรับตามกฎระเบียบโทเคนคริปโตของเอมิเรตส์แห่งนี้
นอกจากนี้ UAE ยังคงดำเนินแผนพัฒนา เงินดิจิทัลประจำชาติ (Digital Dirham) ซึ่งเป็นโครงการสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)
ล่าสุดเมื่อวันที่19 พฤษภาคม หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของดูไบ Virtual Assets Regulatory Authority (VARA) ได้ประกาศเพิ่มมาตรการกำกับดูแลใหม่สำหรับกิจกรรมคริปโต โดยเฉพาะในด้านการเทรดแบบมาร์จิ้นและการแจกจ่ายโทเคน โดยมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน30 วัน และบริษัทที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามกฎใหม่ภายในวันที่19 มิถุนายน
ที่มา https://cointelegraph.com/news/ripple-launches-cross-border-blockchain-payments-uae