รีเซต

"เทศกาลเจนนี่" ไลฟ์โกยร้อยล้าน จุดเปลี่ยนการตลาดยุคใหม่

"เทศกาลเจนนี่" ไลฟ์โกยร้อยล้าน จุดเปลี่ยนการตลาดยุคใหม่
TNN ช่อง16
14 ตุลาคม 2568 ( 12:46 )
11

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น กำลังทำให้การตลาดในรูปแบบไลฟ์ขายของ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการไลฟ์แบบมาราธอน (ข้ามวัน ข้ามคืน) ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีไอเดียต่อยอด จนทำให้การไลฟ์สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นทุกวันแบบถล่มทลาย กลายเป็นปรากฏการณ์ เรียกว่า "เทศกาลเจนนี่" 

จากการเปิดเผยยอดขายในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ทำยอดขายได้กว่า 24 ล้านบาท ถัดมาวันที่ 10 ตุลาคม มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 33 ล้าน 6 แสนบาท วันที่ 11 ตุลาคม เพิ่มขึ้นกว่า 80 ล้านบาท และวันที่ 4 วันที่ 12 ตุลาคม มียอดขายทะลุหลักร้อยล้านบาท อยู่ที่กว่า 126 ล้าน 7 แสนบาท รวม 4 วันทำยอดขายได้มากกว่า 264 ล้าน 9 แสน ล้านบาท

นอกจากจะไลฟ์ขายของด้วยตัวเองแล้ว เจนนี่ ต่อยอด ด้วยการทำให้ช่องไลฟ์ขายของ ของตัวเอง เป็นเหมือนตลาด เปิดพื้นที่ให้กับเจ้าของแบรนด์ วิดีโอ คอลล์ มาร่วมไลฟ์ขายของเองด้วย โดยเธอ บอกว่า เจ้าของแบรนด์จะมีความเข้าใจในสินค้าได้ดีกว่า

และเพิ่มเอนเกจเมนต์ ให้กับการไลฟ์ ด้วยการติดต่อดารา และคนดังเข้ามาร่วมไลฟ์ที่บ้าน ซึ่งไม่เพียงแต่กระตุ้นยอดคนดู และยอดเอนเอจเมนต์เท่านั้น แต่ยังสามารถผลักดันยอดขายให้กับแบรนด์สินค้าของ ดารา รวมถึง แบรนด์อื่น ๆ ได้มากขึ้น กว่าการไลฟ์ขายของในแบบที่แต่ละแบรนด์เคยทำ โดยจะเน้นบริหารจัดการเวลาให้สมดุลกันระหว่าง ดารา และ สินค้าของแบรนด์อื่น 

ซึ่ง ดาราคนดัง ที่เคยมาร่วมในช่องไลฟ์ของเจนนี่ เช่น แพท ณปภา, ป๋อ ณัฐวุฒิ, กาละแมร์ พัชรศรี, ต้นหอม ศกุนตลา, เชน ธนา, ณวัฒน์ อิสรไกรศีล, หนุ่ม กรรชัย ที่โฟนอิน และส่ง แจ็ค แฟนฉัน มาไลฟ์กับเจนนี่

ขณะเดียวกัน ยังเน้นความเรียล ตรงไปตรงมา โดยจะบอกราคาที่รับได้กับแบรนด์ รวมถึงบอกกฏกติกาแบบตรง ๆ ในหน้าจอไลฟ์ ทำให้ถูกมองว่าเป็นมิติใหม่ของวงการไลฟ์ขายของ เลยทีเดียว 

เจ้าตัวเล่าในรายการโหนกระแส เกี่ยวกับค่าตัว และการปรับราคาใหม่ ซึ่งทำให้มีรายได้มากกว่าเดิม โดยบอกว่า เดิมทีเคยคิดเรตค่าตัวจากแบรนด์ที่มาจ้างให้ไลฟ์ขายของ อยู่ที่ 1 ชั่วโมง ในราคา 200,000 บาท แต่ในการไลฟ์ครั้งนี้ เปลี่ยนไปเป็น 10 นาที ราคา 50,000 บาท และปรับอีก เป็น 1,000 ออเดอร์ คิดราคา 50 บาทต่อออเดอร์ (หรือ เท่ากับ 50,000 บาท ต่อ 1,000 ออเดอร์) หากถึง 1,000 ออเดอร์ ก่อนภายใน 10 นาที เช่น ใช้เวลาแค่ 2 นาที และยังมีเวลาเหลืออีก 8 นาที จะมีการดีล(ถาม) ต่อ ว่าแบรนด์ยังต้องการดีลเพิ่มอีกหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการดีลเพิ่มต่อไปให้ครบเวลา นั่นหมายถึงว่าหากมียอดขายเข้ามา รวมยอด 2,000 ออเดอร์ (หรือ 2,000 บ้าน) เธอจะมีรายได้อยู่ที่ 100,000 บาท

ซึ่งเธอกล่าวว่า ในการไลฟ์ครั้งนี้ ได้ค่าตัวจากบางแบรนด์ สูงถึง 8 ล้านบาท ภายใน 10 นาที (ซึ่งต่างจากเรตเดิมอย่างมากที่ จะได้ 200,000 ภายใน 1 ชั่วโมง)

และยังคงเป็นกระแส ที่นอกจากจะดึงดูดยอดคนดูแบบฉ่ำ ๆ แล้ว ยังดึงดูดทั้ง แบรนด์ เอเจนซี่ ดารานักธุรกิจ และคนดัง ให้เข้าร่วมไลฟ์ขายของผ่านช่องทางของเธออีกจำนวนมาก แต่เธอบอกว่า ต่อ 1 การไลฟ์จะสามารถรับงานได้ที่ 200 แบรนด์เท่านั้น แต่ยังมีแบรนด์ต่อคิวอีกจำนวนมากและดารา คนดังจะรับได้ 30 คนต่อวัน 

จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ในมุมมองของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการจัดการธุรกิจ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า การไลฟ์ของคุณเจนนี่ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางการตลาดในโลกดิจิทัล และเชื่อว่าจะเป็นกรณีศึกษาไปอีกนาน โดยสินค้าที่นำมาขายในไลฟ์ ส่วนใหญ่มองว่าเป็นสินค้าของใช้ทั่วไป ที่ปกติจะไม่ได้สร้างยอดขายได้รวดเร็วนัก แต่เมื่อมาเจอกับแรงกระตุ้นจากหลายองค์ประกอบรวมกัน จึงกลายเป็นความสนุก และความเพลิดเพลินในการชอปปิง

ซึ่งองค์ประกอบต่าง ๆ ที่พูดถึง เริ่มต้นจากดราม่า ซึ่งคนไทยมีความสนใจในเรื่องเหล่านี้ และแปลงเป็นความสงสาร โดย เจนนี่ สามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ขณะเดียวกัน ในการไลฟ์ ยังสร้างความสนุกสนานในการชอปปิง ด้วยการนำดาราสลับเข้ามา ทำให้เกิดความสนุกสนาน และยังทำให้เกิดการแข่งขัน ที่แฟนคลับของคนดังเข้ามาร่วมสร้างยอดขายแข่งขันกัน คล้ายปรากฏการณ์ซัพพอร์ต ไอดอล เหล่านี้ ถือเป็นคีย์ แฟคเตอร์หลัก ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

ดร.บุญยิ่ง กล่าวอีกว่า ถือเป็นความเหนือชั้นในเชิงการไลฟ์ ที่คุณเจนนี่ ทำรูปแบบการไลฟ์ออกมาได้อย่างน่าสนใจและมองว่า การจะประสบความสำเร็จในรูปแบบเดียวกันนี้ได้ ก็ไม่ใช่แค่อาศัยการมีความเข้าใจในรูปแบบของแพลตฟอร์ม หรืออัลกอริธึม เท่านั้น เพราะหากไม่มีองค์ประกอบอย่างที่พูดถึงแล้ว คนที่มีความเข้าใจในอัลกอริธึมเป็นอย่างดี ก็อาจจะไม่ได้สำเร็จเหมือนกัน ก็เป็นได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง