ชี้เป้า 11 โทนเนอร์ตัวเด็ด ใช้แล้วสภาพผิวไหนก็ปังแน่นอน
ด้วยสภาวะสภาพอากาศในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลพิษที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM2.5 หรือแม้กระทั่งควันไอเสียจากรถ สาวๆอย่างเราที่ต้องออกจากบ้านไปทำงาน หรือกิจกรรมต่างๆ เป็นประจำต้องเผชิญกับมลภาวะทุกวัน นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพภายในแล้ว ผิวพรรณก็เป็นหน้าด่านที่ต้องผจญกับสิ่งเหล่านี้ทุกวันโดยเฉพาะ “ใบหน้า”
ปัญหาที่สะสมดังกล่าวทำให้สาวๆหลายคนเริ่มแต่งหน้าไม่ติด ผิวพรรณหมองคล้ำ แม้กระทั่งเกิดผดผื่นสิว ทั้งๆที่ล้่างหน้าเช้า-เย็น บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับใบหน้าทุกวัน
ทั้งนี้อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทำความสะอาดหน้าไม่ล้ำลึกมากพอ บางครั้งการล้างหน้าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องผจญกับมลภาวะในทุกๆวัน ดังนั้น ฮีโร่ของเราที่จะมาช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้คือ “โทนเนอร์”
หลายคนคงสงสัยว่าเจ้า “โทนเนอร์” นี้จะมาช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างไร ซึ่ง “โทนเนอร์” จะเป็นเหมือนขั้นตอนสุดท้ายในการทำความสะอาดผิว บางครั้งสิ่งสกปรกไม่สามารถล้างให้สะอาดให้ด้วยน้ำและโฟมล้างหน้าในรอบเดียวได้
“โทนเนอร์” พระเอกของเราจะช่วยขจัดสิ่งที่อุดดันอยู่ตามรูขุมขน ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งจะช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมในขั้นตอนบำรุง ซึ่งเราจะสามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึกมากขึ้น เพราะรูขุมขนเราสะอาด อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน กำจัดสิ่งสกปรกอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว หลังจากใช้โทนเนอร์แล้วหลายคนพบว่าแต่งหน้าได้ติดทนยิ่งขึ้น และ มีผิวที่ใสสะอาดมากกว่าเดิม ไม่มีสิ่งสกปรกอุดดันตันอันเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย
หลังจากที่เรารู้จักความสำคัญของ โทนเนอร์แล้ว หลายคนคงตั้งคำถามว่า เราควรจะเลือก “โทนเนอร์” ชนิดไหนดี ซึ่งในปัจจุบัน มีตัวเลือกอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งวันนี้ เราได้คัด “โทนเนอร์” ตัวเด็ดตัวดังการันตีด้วยเสียงรีวิวท่วมท้นตามแต่ละสภาพผิว จะมีตัวไหนบ้างเรามาดูกัน
1.Round Lab 1025 Dokdo Toner
ใครเป็นสายเกา ต้องถูกใจโทนเนอร์ชนิดนี้ๆ เพราะยี่ห้อ Round Lab มีรางวัลการันตี ความปังจาก Hwahae Skincare App ซึ่งน้อง Round Lab 1025 Dokdo Toner ได้ #1 Award Winning Toner สาวๆคนไหนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย มีปัญหาการใช้โทนเนอร์แล้วแสบหน้า สามารถใช้ตัวนี้ได้แน่นอน
นอกจากจะเหมาะกับผิวบอบบางแล้ว เจ้าตัวนี้ยังช่วย ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว คืนความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังลดการระคายเคืองอีกด้วย เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และปราศจากแอลกอฮอล์
ราคา : 590 บ. (200 ml.), 220 บ. (50 ml.)
2.Kiehl’s Calendula Toner
ขึ้นชื่อว่าโทนเนอร์ Kiehl’s ของเขาต้องดีเป็นธรรมดา ด้วยความเป็นแบรนด์เก่าแก่จากนิวยอร์ก คิดค้นขึ้นมาจากร้านขายยา ซึ่งรับรองได้เลยว่า Calendula Toner ต้องเป็นมิตรเป็นผิวหน้าแน่นอน
Calendula Toner เป็นไลน์ของโทนเนอร์ที่ไร้แอลกอฮอล์ ซึ่งสบายใจได้ว่าใช้แล้วโอกาสการแพ้น้อยมาก อีกทั้งยังผสม กลีบดอกคาเลนดูล่า หรือชื่อไทยๆคือ ดอกดาวเรืองนั่นเอง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น
นอกจากนี้ยังมี Allantoin ที่ช่วยลดการระคายเคือง และ Burdock ลดไขมัน ปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่น เหมาะสำหรับคนผิวมัน จนถึงไปถึงคนผิวธรรมดา อีกทั้งกลิ่นของ Calendula Toner ยังหอมสดชื่นช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
ราคา : 900 บ. (125 ml.), 1,500 บ. (250 ml.), 2,700 บ. (500 ml.)
3.Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner
ใครเป็นสายกุหลาบต้องถูกใจกับโทนเนอร์ตัวนี้แน่นอน เนื่องจาก Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner สกัดจากผลของกุกลาบของญี่ปุ่นที่ตากจนแห้ง แล้วจึงนำมาสกัดเป็นโทนเนอร์ ซึ่งน้องไม่ได้มาแค่น้ำหรือกลิ่น แต่น้องมาทั้งกลีบกุหลาบ แค่ตั้งไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งก็มองก็สวยแล้ว
นอกจากขวดจะสวยถูกใจแล้ว น้ำมันดอกกุหลาบที่สกัดมานั้นยังช่วยในเรื่องของการกระชับรูขุมขน ฟื้นฟูผิวเสีย ปลอบประโลมผิวอย่างออนไยน
ยังไม่หมดแค่นั้น Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner ยังมีส่วนประกอบของ ไฮยารูลอนิคแอซิด ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น สารสกัดจากใบแองเจลิก้าที่ช่วยลดความแห้งกร้านของผิว อีกทั้งไร้แอลกอลฮอล์ใครๆก็ใช้ได้ โทนเนอร์ตัวนี้เหมาะกับทุกสภาผผิว
ราคา : 980 บ. (100 ml.), 1,760 บ. (250 ml.)
4.Thayers Witch Hazel Toner
โทนเนอร์ตัวนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเหมือนยี่ห้อต้นๆที่กล่าวมา แต่สรรพคุณดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังถูกใจสายออแกนิก สาวๆที่ชอบเครื่องสำอางค์ปลอดสาร ต้องถูกใจกับตัวนี้แน่นอน
ซึ่ง Thayers Witch Hazel Toner แบ่งออกเป็น 4 สูตร ได้แก่
Rose Petal สำหรับผิวมันขาดน้ำปัญหาโลกแตกของสาวๆ ใครแต่งหน้าไม่ติดต้องรักสูตรนี้แน่ๆ
Cucumber สำหรับคนหน้าแห้งหมองคล้ำ บวมน้ำ เจ้าสูตรนี้สามารถช่วยได้แน่นอนเนื่องจากมีกรดคาเฟอิกเพื่อลดความบวม และ วิตามินซีเพื่อความกระจ่างใส
Lavender สำหรับคนที่หน้าบอบบางแพ้ง่าย มีส่วนผสมต้านแบคทีเรีย ลดการเกิดสิว
Unscented สำหรับที่มีปัญหาผิวไม่มาก ผิวทั่วๆไปผิวแพ้ง่าย ผิวผสม สามารถใช้ได้
ราคา : 290 บ. (89 ml.), 690 บ. (355 ml.)
5.Naturista Tea Tree Facial Toner
ใครเป็นสิวแล้วต้องการมองหาโทนเนอร์ที่เป็นออแกนิก Naturista Tea Tree Facial Toner สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะขึ้นชื่อว่า Tea Tree ย่อมถูกสร้างมาเพื่อพิฆาตสิวอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ Witch Hazel ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เรียกได้ว่าขวดเดียวช่วยทั้งยับยั้งการเกิดสิว และ เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว กระชับรูขุมขน
Naturista Tea Tree Facial Toner ยังไร้สารพาราเบน แอลกอลฮอล์ สารเคมีกันเสียต่างๆ ซึ่งน้องได้รับการการันตีความดีงาม จาก ECOCERT Organic องค์กรที่รับรองออแกนิกของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
ราคา : 650 บ. (250 ml.)
6.ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner
ใครเป็นแฟนคลับของ ซูโฮ แห่งวง EXO ไม่มีใครไม่รู้จัก ANUA Heartleaf 77% แน่นอน เพราะ พี่จุนแนะนำให้ใช้ จนแจ้งเกิดในกระแสโซเชียลว่าน้องเป็น โทนเนอร์พี่จุน ความดีงามของน้องนั้น ก็ตามชื่อ ANUA Heartleaf 77% เพราะอัดสมุนไพรมาถึง 77% ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และ พาราเบน มากวนใจ ดังนั้น ANUA Heartleaf 77% จึงเหมาะกับ คนผิวแพ้ง่าย ความสมุนไพรนี้ ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง เติมน้ำให้ผิวเด้งดึ๋งแน่นอน
ราคา : 790 บ. (250 ml.)
7.SOME BY MI 30 Days Miracle Toner
เป็นโทนเนอร์อีกหนึ่งตัวที่โด่งดังในสายเกา ใครที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง หน้ามัน เป็นสิว SOME BY MI 30 Days Miracle ตอบโจทย์ได้แน่นอนจากคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ เติมเต็มผิว อีกทั้งยังมีส่วนผลมของ AHA ช่วยผลัดผิว ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วช่วยให้หน้ากระจ่างใส อีกทั้งยังมี BHA ช่วยลดความมัน กระชับรูขุมขน มาพร้อมกับ PHA ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
แน่นอนว่า น้อง SOME BY MI 30 Days Miracle ไม่มี พาราเบน ซิลิโคน และแอลกอฮอล์ มารบกวนผิวให้ระคายเคือง
ราคา : 35 บ. (6 ml.), 600 บ. (100 ml.), 662 บ. (150 ml.)
8.The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution
ถัดมาที่ The Ordinary ซึ่งแบรนด์สกินแคร์จากอังกฤษนี้ โด่งดังมาสักพักแล้วในบ้านเรา ด้วยราคาที่แสนเป็นมิตร และ ออกผลิตภัณฑ์เซรั่มต่างๆเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวในแต่ละประเภท จนสาวไทยแทบขาดจากโต๊ะเครื่องแป้งไม่ได้ หารู้ไม่ว่าโทนเนอร์ของเขาก็เด็ดดวงไม่แพ้กัน
โดยเจ้า The Ordinary Glycolic Acid 7% นี้ เป็นโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ ใครที่หายจากสิวแล้วทิ้งรอยดำไว้ให้ระลึกถึง โทนเนอร์ตัวนี้สามารถเป็นตัวช่วยได้เป็นอย่างดี แถมยังไม่ทำให้หน้าแห้งตึง
แต่เดี๋ยวก่อน! น้องตัวนี้ไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะมีสารที่ผลัดเซลล์ผิวอย่าง Glycolic Acid ถึง 7% หากยังดื้อใช้อาจเกิดการระคายเคืองได้
ราคา : 590 บ. (240 ml.)
9.SON&PARK Beauty Water
สาวๆท่านใดที่ไม่นิยมความยุ่งยาก หรือมีเวลาดูแลตัวเองน้อยนิด ต้องถูกใจกับ SON&PARK Beauty Water เพราะนอกจากความโทนเนอร์แล้ว น้องยังสามารถแปลงสภาพเป็นน้ำตบ ใช้เช็ดเครื่องอางค์ หรือแม้กระทั่งมาส์กหน้าได้ เรียกได้ว่าทรีอินวันเลยทีเดียว
สำหรับส่วนผสมนั้นมาจากสารสกัดพืชธรรมชาติ 4 ชนิด ช่วยผลัดเซลล์ผลิว ทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก เพิ่มความฉ่ำน้ำหน้าวาวเกาหลี
ความดีงามของเจ้า SON&PARK Beauty Water นั้นการันตีจากเจ้าของที่เป็นนักแต่งหน้าชื่อดังของเกาหลี ซึ่งเคลมว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นออแกนิกมาจากธรรมชาติล้วนๆ
ราคา : 250 บ. (60 ml.), 879 บ. (340 ml.), 1,300 บ. (500 ml.)
10.Dear Klairs Supple Preparation Facial Toner
เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์สายเกาที่มาแรงมาก น้องเด่นมากในเรื่องของการ ปลอบประโลมผิว จากสารสกัดจากใบบัวบก อีกทั้งยังมีส่วนประกอบ Phyto-Oliga ช่วยแก้ไขปัญหาผิวแตกลอก และ Hyaluronic Acid เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว Dear Klairs Supple Preparation จึงเหมาะกับผิวแห้งแตกระแหง บอบบางแพ้ง่าย จนกระทั่งใช้ได้ในผิวทุกประเภท
Dear Klairs Supple Preparation เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์ที่ปราศจากพาราเบน แอลกอลฮฮล์ และ ซิลิโคน ความดีงามอีกหนึ่งคือ เป็นเครื่องสำอางค์ ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ ซึ่งเหมาะกับสายรักษ์โลกเป็นอย่างมาก
ราคา : 860 บ. (180 ml.)
11.Tomato Glow Recipe Toner
ใครที่นิยมซื้อหนึ่งแถมหนึ่งต้องถูกใจกับ Tomato Glow Recipe เนื่องจากใช้เป็นโทนเนอร์เช็ดความสะอาดได้ และ สามารถนำมาใช้เป็นที่มาส์กหน้าได้ด้วย โดยนำมาจุ่มกับสำลีแล้วโปะลงบนผิวหน้า ด้วยสารสกัดหลักตามชื่อคือ มะเขือเทศ ช่วยในเรื่องของสร้างความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน ต้านอนุมูลอิสระ ลดความหมองคล้ำ ได้เป็นอย่างดี
Tomato Glow Recipe ยังปราศสารเคมีที่ไม่เป็นมิตรกับผิวหน้าอย่าง พาราเบน แอลกอลฮฮล์ และ ซิลิโคน อีกด้วย
ราคา : 290 บ. (100 ml.)
ใบหน้าของเราถือเป็นด่านแรกที่สร้างความประทับใจให้คนทั่วไป ดังนั้นอย่าลืมดูแลรักษาใบหน้าให้สะอาดใสอยู่เสมอ โทนเนอร์ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความประทับใจได้ หากถูกใจตัวไหน และ เหมาะกับสภาพผิวของเรา ก็ตามไปสอยกันได้เลยอย่ารอช้า!
ช้อป Shopee 7.7 Mid Year Sale ส่งฟรีขั้นต่ำ 0 บาท พร้อมรับดีล 50% ทุกวัน ตั้งแต่ 25 มิถุนายน - 7 กรกฎาคมนี้! ช้อปคุ้มๆ กับคอลเลคชั่นสินค้าราคา 50 บาท ฟินกับ Flash Sale ไอเท็มฮอตและสินค้าแบรนด์ดังลด 50% ทุกวัน! พร้อมรับโค้ดส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 777 บาท และ Coin Cashback สูงสุด 50%! ห้ามพลาดสินค้าแฟชั่นหลากหลายสไตล์ในราคาดีที่สุดกับ Fashion Mid Year Sale ช้อปแค่ไหนก็ส่งฟรีถึงบ้าน!
ช้อปสินค้าเครื่องครัวลดราคาสูงสุด 90% มาพร้อมวัตถุดิบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว อุปกรณ์เบเกอรี่ อาหารและขนมราคาเริ่มต้นแค่ 9 บาท ครบจบในที่เดียว ตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. นี้เท่านั้น ห้ามพลาด!