รีเซต

เอไอ มองปี 2025 อย่างไร เมื่อถามคำถามให้ AI มองอนาคตปีหน้า

เอไอ มองปี 2025 อย่างไร เมื่อถามคำถามให้ AI มองอนาคตปีหน้า
TNN ช่อง16
20 ธันวาคม 2567 ( 17:19 )
9
*คำเตือน* - ข้อความที่ตอบโดย AI อาจไม่ถูกต้อง และแม่นยำเสมอไป 
AI chatbot 3 ตัวที่เราใช้ในการพูดคุยคือ Chat GPT-4o. ของ OpenAI, Meta AI รุ่น Llama 3 และ Gemini ของ Google ทั้งรุ่น 1.5 และ 2.0 ซึ่งต่างก็ตอบคำถาม และมองอนาคตปีหน้าที่มีทั้งเหมือน และแตกต่างกันไป 
มองภาพรวมของโลกในปี 2025
สำหรับคำถามแรกที่เราเริ่มถาม AI ทั้ง 3 ตัว คือการมองภาพรวมของโลกของปี 2025 ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ChatGPT เองก็มองว่า ประเด็นความขัดแย้ง และความร่วมมือระดับโลก เป็นสิ่งที่มีส่วนในการกำหนดสถานการณ์โลก ไม่ว่าจะการเปลี่ยนผู้นำในบางประเทศ เช่นสหรัฐฯ หรือการสร้างพันธมิตรใหม่ระหว่างประเทศ แต่ที่น่าสนใจคือมันมองว่า “อาเซียนอาจมีบทบาทมากขึ้นในฐานะศูนย์กลางของเศรษฐกิจและการเมืองระดับภูมิภาค โดยเฉพาะการดึงดูดการลงทุนจากมหาอำนาจ” และประเด็นที่สำคัญอีกเรื่อง คือ “ปัญหาภายในประเทศ เช่น การเมืองในพม่าและไทย อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของภูมิภาค”
ขณะที่ ทิศทางของเศรษฐกิจในปีหน้านั้น จะยังเป็นที่การฟื้นตัวจากโควิด-19, เรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI ที่จะมีบทบาทมากขึ้น ไปถึงเรื่องความไม่แน่นอนทางการเงิน และในภาพรวมอื่นๆ เอง เรื่องของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่อาจอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของประชากรในหลายพื้นที่ด้วย 
โดย ChatGPT ได้มองความเสี่ยงที่ต้องจับตา 3 เรื่องคือ การเกิดสงครามหรือความขัดแย้งในพื้นที่สำคัญ เช่น ไต้หวัน หรือยูเครน การระบาดของโรคใหม่ หรือวิกฤตสุขภาพอื่น ๆ
การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างรุนแรงจากประเทศมหาอำนาจ
ด้าน Gemini เอง ก็มองคล้ายๆ กับ ChatGPT ว่าความตึงเครียด และความขัดแย้งทางการเมืองอาจยังคงมีอยู่ และอาจทวีความรุนแรงมากขึ้นในบางภูมิภาค ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความมั่นคง และต้องจับตาการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจอย่าง สหรัฐฯ และจีนต่อไป ในขณะที่ด้านทิศทางเศรษฐกิจ มันมองว่าปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองได้
Gemini ได้เลือกปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมในปีหน้าไว้ 3 เรื่องคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระบาดของโรคระบาด และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่อาจนำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ เช่น ปัญหาการว่างงาน การละเมิดความเป็นส่วนตัว และความไม่เท่าเทียมทางดิจิทัล 
ขณะที่ Meta ได้มองคล้ายคลึงกัน แต่เพิ่มไปถึงการเพิ่มขึ้นของประชาธิปไตยในภูมิภาค ทั้งในเอเชียและแอฟริกา ที่อาจมีการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและความโปร่งใสในการบริหารขึ้นมา  และการเพิ่มขึ้นของความหลากหลายและความเท่าเทียมที่อาจเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และด้านเทคโนโลยี ที่จะมีการเพิ่มขึ้นของการใช้เทคโนโลยี 5G และ 6G 
เทรนด์และบุคคลน่าจับตาปี 2025 จากข้อมูลของ AI
ChatGPT มองว่าเทรนด์ของปีหน้าจะเป็นปีที่กระแสโลกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยทางเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม โดยประชาชนจะให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล มีการเรียกร้องสิทธิในเรื่องนี้มากขึ้น ไปถึงเรื่องสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเน้นไปที่ความสมดุลระหว่างงานและชีวิต รวมถึงเทรนด์ Minimalism และะการบริโภคที่มีจุดมุ่งหมาย เช่นการสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะนิยมมากขึ้น 
ประเด็นสุขภาพจิต เป็นสิ่งที่ Gemini ยกขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป และความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตด้วย ทั้งเรื่องของความยั่งยืน และธุรกิจต่างๆ จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวคิดนี้ ไปถึงเรื่องการทำงานระยะไกล ที่จะเป็นเรื่องปกติมากขึ้น และมีผลกระทบต่อรูปแบบการทำงานและวิถีชีวิตของผู้คนด้วย
สำหรับคำตอบของ meta ในประเด็นนี้นั้น ค่อนข้างเป็นไปอย่างกว้างๆ และไม่ลงลึกข้อมูลเท่า Chatbot อีกสองตัว แต่พูดถึงการเติบโตของ VR และ AR รถยนต์ไฟฟ้า การชำระเงินข้ามพรมแดน และยุค Silver Economy ส่วนในประเด็นวัฒนธรรม มีการพูดถึง ‘การเพิ่มขึ้นของการใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ศิลปะ’ เข้ามา 
นอกจากเรื่องของเทรนด์ และภาพรวมแล้ว เมื่อถามถึงบุคคลระดับโลก และในประเทศไทยที่น่าจับตาในปีหน้า พบว่า คำถามนี้เป็นคำถามที่ Chatbot ทั้งสาม ให้คำตอบที่มีจุดผิดพลาด 
โดยในมุมระดับโลก ChatGPT แนะนำบุคคลสำคัญอย่าง นักธุรกิจอย่าง Elon Musk, ปธน.จีน Xi Jinping และใส่ CEO ของบริษัทตัวเองอย่าง Sam Altman (CEO ของ OpenAI) เข้ามา แต่ยังคงแนะนำ Joe Biden ปธน.สหรัฐฯ คนปัจจุบัน โดยให้คำอธิบายว่าผู้ชนะการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ปี 2024 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดด้วย ส่วนบุคคลในไทยเอง ยังคงแนะนำ เศรษฐา ทวีสิน โดยให้ข้อมูลว่า เป็นนายกรัฐมนตรีไทย
ขณะที่ ทั้ง Meta และ Gemini ไม่ได้ตอบคำถามเป็นรายชื่อออกมา เพียงแต่แนะนำเป็นชื่อตำแหน่งหรืออาชีพอย่าง ผู้นำโลก, นักวิทยาศาสตร์, นักกีฬา หรือนักเคลื่อนไหวแทน 
2025 ปีแห่ง…ของประเทศไทย 
สุดท้าย เราให้ AI จากทั้ง 3 เจ้ามองถึงประเทศไทยในปีหน้าบ้าง โดยเริ่มจากการตั้งชื่อ และธีมของปีหน้าให้ประเทศไทย ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือ 
"ปีแห่งการปรับเปลี่ยนและความเติบโต"  -  Meta
"ปีแห่งการเปลี่ยนผ่านและโอกาส" - Gemini
"ปีแห่งการฟื้นฟูและการเปลี่ยนแปลง" ChatGPT
สำหรับ Meta ได้มองความท้ายทายในปีหน้าที่สำคัญของไทย คือเรื่อง การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามมาด้วยการปรับปรุงระบบการบริหารและความโปร่งใส และการเพิ่มขึ้นของการแข่งขันทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ในขณะที่ก็องว่า ไทยมีโอกาสในการการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล, การเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างประเทศ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่ง
Gemini เองก็มองว่าปีหน้า โอกาสที่จะเกิดขึ้นคือเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นกัน โดยการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและการส่งเสริมสตาร์ทอัพจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งยังมองเรื่องโอกาสของการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, การฟื้นฟูการท่องเที่ยว และการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
“ฟื้นฟูการท่องเที่ยว และการส่งออก” คือมุมมองของ ChatGPT สำหรับประเทศไทยในปีหน้า และยังมองว่าเป็นปีของการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคมไทยได้ รวมไปถึงประเด็นการปฏิรูป เช่น ระบบการศึกษา การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และการจัดการปัญหาคอร์รัปชัน จะเป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องผลักดัน และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล
ChatGPT ยังตอบว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมลพิศทางอากาศ ภัยแล้ง น้ำท่วม ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายในไทย และหากไทยจะพยายามรักษาสถานะเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ต้องดึงดูดการลงทุนจากมหาอำนาจ และความร่วมมือในอาเซียจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจได้ด้วย
ข้อสังเกตุ AI ไม่ได้มีคำตอบที่ชัดเจนในข้อมูลมาก โดยเฉพาะเมื่อถามเรื่องการเมือง อย่างแนวโน้มการเมืองปีหน้าของไทยพบว่า Gemini ให้คำตอบว่า “ตอนนี้ฉันยังช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งและบุคคลทางการเมืองไม่ได้ แม้ว่าฉันจะได้รับการฝึกฝนให้ตอบคำถามอย่างถูกต้องเท่าที่สามารถทำได้ แต่ก็อาจผิดพลาดได้ในบางครั้ง” ในขณะที่ Meta และ ChatGPT เองก็มีการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้อง หรือข้อมูลที่ไม่ใช่ชุดข้อมูลใหม่ล่าสุดด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง