ORมาร์จิ้นทะยาน อเมซอนขวดสุดฮิต

เบอร์ 1  OR รับขายแหลกช่วงสงกรานต์ น้ำมันเจ็ทพุ่งเกิน 100% ขณะที่ยอดขายในปั๊มสูงรับการเดินทางพรึ่บ ค่าการตลาด 1.80 บาทดีขึ้น มั่นใจผลงานดี ระบุมาจากสายเทรดเดอร์เข้าใจการจัดการสต๊อกเพิ่มกำไร เดินหน้าเพิ่มมาร์จิ้นอเมซอนผ่านโปรแกรมลดต้นทุน 15% ทึ่งกาแฟขวดแรงขายดีเกินคาด 3 เท่า

นายดิษทัต  ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผย "ทันหุ้น" ว่า สถานการณ์ค้าปลีกน้ำมันช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บริษัทมีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นมา 100% ส่วนการจำหน่ายน้ำมันในสถานีน้ำมันก็เพิ่มขึ้นตามการเดินทางช่วงสงกรานต์ที่หนาแน่น ท่ามกลางค่าการตลาดน้ำมันที่กลับมาดีขึ้นจากการที่ถูกกำหนดไว้ที่ 1.80 บาทต่อลิตรนั้น ซึ่งเป็นค่าการตลาดที่ดีกว่าก่อนหน้า ซึ่งอยู่ในระดับ 1.40-1.30 บาทต่อลิตร

@ บริหารดีเพิ่มกำไร

ดังนั้นจึงมั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมา ตามปริมาณการเดินทางที่สูงขึ้นมากกว่าปีก่อน การท่องเที่ยวกลับมาดี และรัฐบาลได้สนับสนุนวันหยุดยาวให้ประชาชนได้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายน้ำมัน

ขณะเดียวกันในเชิงของค่าการตลาดที่กลับมาสูงขึ้น และด้วยความที่ตนมาจากสายงานเทรดเดอร์ เข้าใจซัพพลาย สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น บริหารจัดการสต๊อกได้ การให้ความสำคัญกับวอลุ่มที่จะเก็บสต๊อกต่างๆ มีความสมเหตุสมผล ทำให้โอกาสขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันเหมือนปีที่่ผ่านมามีน้อย

"เรื่องสต๊อกนับว่าสำคัญเรามีการบริการจัดการสต๊อกให้สมเหตุสมผลกับการขาย เพราะมากไปมันก็เป็นต้นทุน และมีโอกาสสูญเสีย เรามาจากเทรดเดอร์ เราเข้าใจ ถึงการเก็บที่เหมาะสม โอกาสที่จะสต๊อกลอสก็จะน้อย"

ทั้งนี้ผลงานที่จะประกาศออกมาต่อจากนี้จะดีขึ้นมามาก หลังจากช่วงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทจำเป็นต้องซื้อแอลเอ็นจีเก็บเข้ามาในช่วงราคาผันผวน ต่อเมื่อราคาลงแรง จึงทำให้ไตรมาส 4 มีปัญหา แต่นั้นเป็นเพียงแค่เหตุการณ์ที่เป็นอุบัติเหตุครั้งเดียวเท่านั้น

@ กาแฟขวดดีเกินคาด

ส่วน "ธุรกิจนอนออยล์" โดยเฉพาะธุรกิจคาเฟ่อเมซอนนั้นจะมุ่งเน้นการบริหารในด้านมาร์จิ้นมากขึ้น หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มขึ้นราคาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนด้วยโปรแกรมที่จะทำให้ต้นทุนลดลง 15% ทั้งการบริหารสต๊อก เมล็ดกาแฟ ทำให้มีมาร์จิ้นที่เข้มแข็งยั่งยืน

นอกจากนี้บริษัทยังได้ออก "กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน" และ "ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที" ที่เพิ่งได้เปิดตัวขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ตั้งแต่ 6 เมษายน ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด 2-3 เท่า เนื่องจากเป็นการตอบโจทย์การดื่มกาแฟสดที่หยิบง่าย ดังนั้นเชื่อว่ามีโอกาสที่ "กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน" จะมียอดขายสูงกว่าเป้าทั้งปีที่วางไว้ 8 ล้านขวด ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการยกระดับร้านกาแฟ Pacamara เป็นแบรนด์สเปเชียลตี้ โดยนำเอาจุดแข็งระบบหลังบ้านมาใช้

"นี่คือนโยบายที่ประกาศไว้จะจะเดินหน้าคือการขยายจุดแข็ง ขยายแวลูเชน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อย จะมีการรีวิวการลงทุนทั้งหมดว่า เป็นอย่างไร และจะวางกลยุทธ์เพื่อที่จะทำให้การดำเนินงานของบริษัทที่ลงทุนมีประสิทธิภาพ"

@ขยายลงทุน-เปิดปั๊มเรือธง

ส่วนการลงทุนบริษัทยังคงเดินหน้าในการเจรจาซึ่งกำลังศึกษาและกระจายความเสี่ยงออกไปซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ด้านการขยายสถานีให้บริการน้ำมันจะขยายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้บริษัทได้ดำเนินการปั๊มตัวอย่างที่จะเป็นเรือธง ที่บริเวณ วิภาวดี 62 ซึ่งจะเปิดตัวช่วยเดือนมิถุนายน เป็นปั๊มที่จะตอบโจทย์ด้วยพลังงานสะอาดมีการนำเอาโซลาร์รูฟเข้ามาใช้นำเทคโนโลยีเอนเนอร์ยี่สตอเรจมาใช้ผลิตไฟฟ้าตลอด 24 ชม. มีการวัดคาร์บอนฟุตพรินต์ นอกจากนี้ยังมีโมเดล UPCYCLE นำวัสดุเหลือใช้มาขึ้นรูปใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดขยะ เช่น เสื้อผ้า ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การลดโลกร้อน

@ ต่างชาติเห็นอนาคต

ส่วนการที่ เจพี มอร์แกน อัพเป้าลงทุนใน OR นั้น นับเป็นสิ่งสะท้อนที่ดี หลังจากที่ได้มีการพูดคุยและให้ความมั่นใจ ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะรักษาสมดุลดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัททุกราย