PLANB แนวโน้มกำไรยังเติบโตดี 'หยวนต้า' ชี้ราคาลง เป็นจังหวะช้อน
#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า สแกน หุ้นบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB คาด Q4/67 ผลประกอบการเติบโต QoQ, YoY ซึ่งเข้า High Season ของธุรกิจ OOH ส่วนอัตรากำไรจะกลับสู่ภาวะปกติคาด EBITDA Margin กลับขึ้นมาที่ 46.5% ใกล้เคียงกับงวด 1H67 จาก Q3/67 ที่ลงมาเหลือ 40.9% เนื่องจากใน Q4/67 ไม่มีการรับรู้รายได้จากโอลิมปิกที่มีมาร์จิ้นต่ำเข้ามาแล้ว และยังเป็นไตรมาสแรกที่บริษัทจะเริ่มใช้เทคโนโลยี Magnetic 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ PLANB พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการโฆษณานอกบ้าน (OOH) โดยใช้ AI ขั้นสูงในการวิเคราะห์และวัดผลสื่อโฆษณาแบบเรียลไทม์ระบบนี้ทำงาน
โดยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ในทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อเก็บข้อมูลการจราจรที่ผ่านหน้าสื่อโฆษณา ทำให้สามารถกำหนดแผนการโฆษณาที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนประเด็นข่าวบริษัท The icon group มีคดีความฉ้อโกงประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ใช้ป้ายโฆษณา PLANB สัดส่วนรายได้ The icon group ต่อปีคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของรายได้รวมบริษัท ที่ผ่านมา The icon group ชำระเงินตรงเวลา ไม่มีหนี้เสีย และใน Q4/67 The icon มีลงสื่อโฆษณากับ PLANB น้อยมาก จึงไม่กระทบต่อรายได้รวมบริษัท
ปี 2568 แนวโน้มยังสดใส คาดสื่อ OOH ยังเติบโตดีกว่าสื่ออื่น
ปี 2568 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง 11%YoY เป็น 1,111 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) คาดเม็ดเงินของอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้านเติบโต 10%YoY รับผลบวกจากภาคธุรกิจจะกลับมาใช้จ่ายโฆษณามากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภค โดยคาด Media Capacity ของ PLANB ที่ 9,700 ล้านบาท และ Utilization rate ปรับเพิ่มจากปีก่อนที่ 75% เป็น 80% 2) ธุรกิจ Engagement Marketing คาดธุรกิจกีฬา และ E-Sport ยังมีแนวโน้มเติบโตดีในส่วนของบริษัทลูก I am คาดมีรายได้จากการจัดงานเพิ่ม จากการจัดงานเลือกตั้ง BNK 3) ผลบวกเต็มปีจากการใช้เทคโนโลยี Magnetic 2.0 ในการจัดการสื่อโฆษณา (การนำเทคโนโลยี AI และ Big Data มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดกลยุทธ์โฆษณา ช่วยขยายฐานรายได้จากการปรับขึ้นค่าโฆษณา และช่วยบริหารต้นทุนให้ประสิทธิภาพมากขึ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาปรับลดลงสวนทางผลประกอบการ
ราคาหุ้น PLANB ปรับลดลงสวนทางแนวโน้มผลประกอบการ ซึ่งเราคาดผลประกอบการของ PLANB ปี 2567 ถือว่าเติบโตดีกว่ากลุ่มสื่ออื่นๆ ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อ OOH และปี 2568 คาดยังเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามแผนขยาย Capacity และขยายธุรกิจสื่อใหม่ๆเพิ่ม ฝ่ายวิจัยคงมูลค่าพื้นฐานที่ 10.60 บาท อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC 8.0% (Ke 9.1%), Terminal growth 3%