ดาวอังคาร เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญการสำรวจด้านอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา (NASA) สหรัฐอเมริกา โดยมีโครงการที่สำคัญอย่างหุ่นยนต์สำรวจเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ที่ส่งไปสำรวจอวกาศตั้งแต่ปี 2021 และกำลังทำภารกิจรวบรวมตัวอย่างหินบนดาวอังคารอยู่ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม นอกจากความท้าทายในการปล่อยให้หุ่นยนต์ทำงานเพียงลำพังบนดาวอังคารแล้ว ความท้าทายในการส่งตัวอย่างที่อยู่ห่างจากโลกถึง 450 ล้านกิโลเมตร ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน ดังนั้น นาซาจึงได้สร้างจรวดรุ่นใหม่เพื่อไปรับตัวอย่างกลับมาตุภูมิ โดยมีเครื่องยนต์จรวดเป็นหัวใจสำคัญ และตอนนี้นาซาก็มีความคืบหน้าสำคัญ หลังผ่านการทดสอบเครื่องยนต์ตัวดังกล่าว

การทดสอบเครื่องยนต์ของจรวดขนตัวอย่างจากดาวอังคารกลับโลก

จรวดเอ็มเอวี หรือ มาร์ส แอสเซนต์ วีหะเคิล (MAV: Mars Ascent Vehicle) จรวดขนาดเล็กขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแข็ง (Solid-fuel) มีเครื่องยนต์อยู่ด้วยกัน 2 เครื่อง เครื่องแรกที่มีชื่อว่าเอสอาร์เอ็มวัน (SRM 1) ซึ่งทดสอบที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด  (Edwards Air Force Base) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และเอสอาร์เอ็มทู (SRM 2) ทดสอบที่ศูนย์ของนอร์ททร็อป กรัมแมน (Northrop Grumman facility) ในรัฐแมรีแลนด์ ในเวลาไล่เรี่ยกัน

การทดสอบ SRM 1 จะจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับการทำหน้าที่ส่งจรวดขนาดเล็ก MAV จากยานสำรวจ (Lander) บนดาวอังคาร ด้วยการให้ตัวเครื่องทดสอบในห้องสุญญากาศและมีอุณหภูมิทดสอบอยู่ที่ -20 องศาเซลเซียส เพื่อดูว่าเครื่องยนต์สามารถทำงานภายใต้สภาวะหนาวเย็นได้หรือไม่ 

ในขณะที่การทดสอบ SRM 2 จะเพิ่มการปั่น (Supn) ด้วยความเร็ว 200 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นสภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการบินไปยังระดับวงโคจรของดาวอังคารด้วย ซึ่งทั้งสองการทดสอบต่างประสบความสำเร็จด้วยดี

ถึงมีเครื่องยนต์แต่หินดาวอังคารก็อาจส่งกลับบ้านไม่ได้

ตามแผนงานแล้วเมื่อเครื่องยนต์สามารถใช้งานได้ ก็จะนำไปติดตั้งและประกอบจรวดเล็ก MAV เพื่อออกเดินทางไปรับตัวอย่างหินดาวอังคารและกลับมายังโลกภายในปี 2030 หรือในช่วงต้นทศวรรษนั้น แต่ทั้งหมดนี้อาจจะต้องเลื่อนออกไปหากคณะกรรมาธิการวุฒิสภาไม่เห็นชอบในด้านงบประมาณที่ใช้กับโครงการ

ภารกิจส่งตัวอย่างหินดาวอังคารกลับบ้าน (Mars Sample Return mission) ได้รับอนุมัติงบประมาณจากคณะกรรมาธิการวุฒิสภาไว้ที่ 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 184,000 ล้านบาท แต่ว่านาซาคาดการณ์งบที่จำเป็นทั้งหมดไว้ที่ 9 พันล้านเหรียญ หรือกว่า 312,000 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าคณะกรรมาธิการฯ อาจปัดตกการยื่นขอขยายวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม และอาจทำให้ภารกิจการสำรวจอวกาศที่ทะเยอทะยานที่สุดเป็นเพียงวิมานที่รอวันพังทลายก็เป็นได้

ที่มาข้อมูล New Atlas

ที่มารูปภาพ JPL - NASA