รีเซต

วันสิ้นโลกเป็นเรื่องจริง? นาซ่าชี้ เกิดในอีกพันล้านปี ดวงอาทิตย์ขยายใหญ่ จนโลกลุกเป็นไฟ

วันสิ้นโลกเป็นเรื่องจริง? นาซ่าชี้ เกิดในอีกพันล้านปี ดวงอาทิตย์ขยายใหญ่ จนโลกลุกเป็นไฟ
TNN ช่อง16
28 เมษายน 2568 ( 13:56 )
25

NASA เผยทฤษฎี “วันสิ้นโลกสุดของโลก” อาจมีจริง ในอีกประมาณหนึ่งพันล้านปีข้างหน้า เนื่องจากความร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของดวงอาทิตย์

องค์การนาซา และทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโตโฮ( Tōhō) ประเทศญี่ปุ่นได้เผยผลลัพธ์จากการศึกษาว่าโลกจะถึงจุดจบในปี ค.ศ.1,000,002,021 (หนึ่งพันล้านสองพันยี่สิบเอ็ด) หรือในอีก 1,000 ล้านปีข้างหน้า 

ข้อมูลระบุว่า ดวงอาทิตย์จะค่อย ๆ ขยายตัวและร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงพันล้านปีข้างหน้า ส่งผลให้มหาสมุทรของโลกเริ่มระเหย อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลงและลดปริมาณออกซิเจน และท้ายที่สุด โลกจะกลายเป็นดาวเคราะห์ร้างที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไปเหลือไว้เพียงหินเปล่า ๆ

แม้อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในวันนี้จะส่วนหนึ่งมาจากมนุษย์ผ่านภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก แต่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ความร้อนจากดวงอาทิตย์ในอนาคตจะทวีความรุนแรงจนมนุษย์ไม่สามารถอยู่รอดได้ แม้จะมีเทคโนโลยีล้ำแค่ไหนก็ตาม

ในปี 2024 NASA ยังพบอีกหนึ่งภัยร้ายใกล้ตัว นั่นคือ พายุสุริยะ ซึ่งเกิดจากการปะทุของพลังงานจากดวงอาทิตย์ ทั้งในรูปแบบของ Solar Flares และ Coronal Mass Ejections (CMEs) ที่สามารถส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลก ลดระดับออกซิเจนในชั้นบรรยากาศ และเร่งให้โลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว 

NASA เตือนว่าอาจกระทบต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตในอนาคตอันใกล้ จึงถือเป็นสัญญาณเริ่มต้น ดังนั้น การค้นหาดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยได้แห่งใหม่จึงไม่ใช่แค่เพียงนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป 

หนึ่งในแผนการสำคัญคือการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร ซึ่งมีสภาพแวดล้อมคล้ายโลกมากที่สุด และอาจเคยมีสิ่งมีชีวิตมาก่อน  แต่นักวิทยาศาสตร์บางส่วนมองว่า เทคโนโลยีระบบสนับสนุนชีวิต เช่น ระบบผลิตออกซิเจนและน้ำในพื้นที่ปิด อาจช่วยให้มนุษย์มี “บ้านชั่วคราว” ได้ แต่ไม่ใช่ตลอดไป เพราะร่างกายของมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมประดิษฐ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง