"น้ำท่วมภาคใต้" กระทบธุรกิจ 5 หมื่นราย "พาณิชย์" เปิดทำธุรกรรมออนไลน์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นขณะนี้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนประชาชนและธุรกิจในพื้นที่อย่างมหาศาล
โดยมีนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ใน 9 จังหวัดได้รับผลกระทบจำนวนทั้งสิ้น 57,541 ราย ทุนจดทะเบียน 356,806.40 ล้านบาท แบ่งเป็น
– สุราษฎร์ธานี 24,808 ราย ทุนจดทะเบียน 122,760.58 ล้านบาท
– สงขลา 13,878 ราย ทุนจดทะเบียน 136,220.99 ล้านบาท
– นครศรีธรรมราช 7,311 ราย ทุนจดทะเบียน 33958.34 ล้านบาท
– ตรัง 2,937 ราย ทุนจดทะเบียน 23,079.64 ล้านบาท
– พัทลุง 2,153 ราย ทุนจดทะเบียน 5,729 ล้านบาท
– ยะลา 1,879 ราย ทุนจดทะเบียน 12,158.70 ล้านบาท
– นราธิวาส 1,808 ราย ทุนจดทะเบียน 8,678.61 ล้านบาท
– ปัตตานี 1,799 ราย ทุนจดทะเบียน 9,774.45 ล้านบาท
– สตูล 966 ราย ทุนจดทะเบียน 4,445.09 ล้านบาท
ขณะที่มีสำนักงานให้บริการจดทะเบียนธุรกิจบางพื้นที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เช่น หาดใหญ่ สงขลา และปัตตานี ซึ่งผู้ประกอบการก็ไม่สามารถเดินทางไปติดต่อดำเนินการได้ด้วยตนเอง แต่สามารถยื่นคำขอหรือทำธุรกรรมทางออนไลน์ผ่านระบบต่างๆ เช่น การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน/บริษัท การขอสำเนาเอกสาร การอัปเดตข้อมูลนิติบุคคล โดยกรมฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับบริการอย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ติดขัดจากสถานการณ์อุทกภัย
“นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดน้ำท่วมนายทะเบียนส่วนกลางได้ช่วยพิจารณาคำขอจดทะเบียนที่ผู้ประกอบธุรกิจยื่นผ่านระบบ DBD Biz Regist ซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี และนราธิวาส มาดำเนินการแทนนายทะเบียนของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ดังกล่าวให้จนแล้วเสร็จทุกขั้นตอน” นายพูนพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในระหว่างเกิดอุทกภัยได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือนิติบุคคลผู้ประสบอุทกภัยซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตที่ประสบเหตุ สามารถขอขยายเวลาและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ทำให้ไม่อาจดำเนินการยื่นจดทะเบียน ยื่นงบการเงิน ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาขยายเวลาในการยื่นเอกสารหรือดำเนินการตามกฎหมายของนิติบุคคล
ทั้งนี้ นิติบุคคลสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาหรือดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สถานการณ์อุทกภัยได้สิ้นสุดลง รวมถึงการแจ้งบัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สูญหาย หรือเสียหาย ให้สามารถยื่นล่าช้าจากที่กฎหมายกำหนดได้ และสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจสอบบัญชี โดยได้จัดทำคู่มือการบริหารจัดการด้านบัญชีและภาษีในภาวะวิกฤติ-ภัยพิบัติ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีแนวทางในการดำเนินการได้อย่างถูกต้อง สามารถศึกษาคู่มือฯ ได้ที่ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ คู่มือการทำธุรกิจ
กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องการติดต่อกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ที่ประสบเหตุอุทกภัยแต่ไม่สามารถเดินทางได้ สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ และในส่วนของกรมฯ ได้มีระบบจดทะเบียนธุรกิจและการให้บริการด้านต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาอำนวยความสะดวก ข้อมูลมีความถูกต้อง รวดเร็ว และทันสมัย เพื่อเพิ่มช่องทางและลดอุปสรรคให้ผู้ประกอบธุรกิจได้รับบริการอย่างเต็มรูปแบบ ไม่จำกัดเวลา และสถานที่ โดยกรมฯ มีความมุ่งหมายให้ช่องทางออนไลน์ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจ และช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามุ่งหวังให้ผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ประสบอุทกภัยสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องไม่สะดุดหรือหยุดอยู่กับที่ เพื่อลดผลกระทบจากการเดินทางและความล่าช้าทางเอกสาร พร้อมยืนยันความพร้อมของระบบออนไลน์ของกรมฯ ที่ช่วยให้การให้บริการภาครัฐยังคงเดินหน้าได้แม้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้” นายพูนพงษ์ กล่าว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
