เผยแอปเปิ้ลเคยขู่แบนเฟซบุ๊ก ปมพื้นที่ธุรกิจค้า-คดีแม่บ้านตะวันออกกลาง

เผยแอปเปิ้ลเคยขู่แบนเฟซบุ๊ก - วันที่ 26 ต.ค. เอพีรายงานว่า แอปเปิ้ล ผู้พัฒนาไอโฟนเคยขู่จะถอดแอพพลิเคชั่น เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมออกจากแอปเปิ้ลสโตร์ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังพบว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อแลกเปลี่ยนและขายแม่บ้านในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับการเปิดเผยผ่านบันทึกของคณะกรรมาธิการความปลอดภัยและตลาดหุ้นที่นำเสนอต่อรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา จากกรณีที่นางสาวฟรานเซส เฮาเก็น อดีตพนักงานระดับสูงของเฟซบุ๊ก ผันตัวมาแฉข้อมูลความลับของเฟซบุ๊ก

ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กเคยออกมายอมรับว่า เรื่องข้างต้นนั้นเป็นความจริง และว่าขณะนั้นเฟซบุ๊กมีมาตรการที่ไม่เพียงพอต่อการค้นหาพฤติกรรมกลั่นแกล้งทรมานบนแพล็ตฟอร์ม หลังมีรายงานการพบการเขียนข้อความจากแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์หลายคนบนเฟซบุ๊ก ว่าถูกนายจ้างกลั่นแกล้งและทรมาน

อย่างไรก็ดี ความพยายามปราบปรามของเฟซบุ๊กกลับได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยปัจจุบันหากค้นหาแม่บ้านด้วยภาษาอาหรับก็จะพบภาพ ข้อมูล และราคาแม่บ้าน จากทั้งทวีปแอฟริกา และเอเชียใต้ รวมถึงชาติอื่นๆ ตลอดจนฟิลิปปินส์ด้วย

ความพยายามปราบปรามดังกล่าวยังเกิดขึ้นจากทางฝั่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ด้วยที่มีคณะทำงานเฉพาะกิจซึ่งมีหน้าที่ตรวจตราค้นหากรณีดังกล่าวบนเฟซบุ๊กโดยเฉพาะแต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันเหล่าแม่บ้านที่หางานจากกลุ่มอาชญากรรมและนายจ้างที่ไร้มนุษยธรรมได้หมด

รายงานระบุว่า ภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นหนึ่งในแหล่งทำงานหารายได้ของผู้หญิงจากทวีปเอเชียและแอฟริกา โดยทางเฟซบุ๊กยอมรับว่า บางประเทศในภูมิภาคนี้ปล่อยปละละเลยเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชนของคนงานอย่างร้ายแรง

เอกสารระบุต่อว่า "การสืบสวนข้อมูลของเฟซบุ๊กพบผู้ทำงานมักบ่นว่าถูกบริษัทว่าจ้างกักขังไว้ในที่พัก ให้อดอาหาร และบีบบังคับให้ลงนามในสัญญาขยายสัญญาออกไปอย่างไม่มีกำหนด ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง และถูกนำไปขายต่อให้นายจ้างคนอื่นโดยปราศจากความยินยอม"

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังพบว่า บริษัทผู้ว่าจ้างเหล่านี้มักเพิกเฉยต่อกรณีลูกค้าทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดทางเพศแม่บ้าน มากกว่าเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วย

แถลงการณ์ล่าสุดของเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทางบริษัทมีความเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาข้างต้น แม้จะยังมีโฆษณาและพฤติกรรมในลักษณะนี้แพร่หลายอยู่ในแพล็ตฟอร์มก็ตาม

"เราห้ามไม่ให้มีการฉกฉวยโอกาสต่อมนุษย์ทุกรณี โดยเรายังคงต่อสู้กับเหล่าขบวนการค้ามนุษย์บนแพล็ตฟอร์มมาอย่างต่อเนื่องนานหลายปี และเป้าหมายของเรายังไม่เปลี่ยนแปลง คือ การปกป้องผู้ใช้จากการฉวยโอกาสของอาชญากร และไม่ให้ที่พื้นที่กับบุคคลเช่นนี้" เฟซบุ๊ก ระบุ