AMATAVมีแผนร่วมทุน ลุยพัฒนานิคมเวียดนาม

ทันหุ้น-AMATAV เร่งโอนที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลองเฟสแรกราว 75 ไร่ให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมความคืบหน้าปิดดีลขายโรงงาน 33 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ เบียนหัว ที่คาดว่าเงินมัดจำจะได้ภายในปีนี้ และทยอยโอนไตรมาส 1/2565 ย้ำเวียดนามมีอนาคตยังเดินหน้าพัฒนานิคมฮาลองเฟส 2 พื้นที่ 750 ไร่ และตั้ง JV พัฒนานิคมพื้นที่ 625 ไร่ในจังหวัดกว๋างนิญ

นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ยอดขายที่ดินทั้งปี 2564 จะอยู่ที่ประมาณ 400 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการด้านเอกสาร เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลองให้กับผู้ประกอบการโครงการโซล่าฟาร์มเฟส 1 ประมาณ 75 ไร่ให้ได้ภายในไตรมาส 4/2564 ทั้งนี้หากต้องเลื่อนไปโอนกรรมสิทธิ์ภายในไตรมาส 1/2565 คาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้ง 53 เฮกเตอร์ (ประมาณ 331.25 ไร่)

พร้อมกันนี้บริษัทสามารถปิดดีลการเจรจาขายโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรม 33 แห่งภายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ เบียนหัว เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ภายในไตรมาส 1/2565

“ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาต่อรองเรื่องราคา รวมถึงร่างสัญญาเมื่อลงนามในสัญญาแล้วลูกค้าจะจ่ายเงินมัดจำเข้ามาจำนวนหนึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 4/2564 จากนั้นจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่องหลังสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์ภายในไตรมาส 1/2565”

ทั้งนี้บริษัทยังคงติดตามการดำเนินมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการเร่งกระจายวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลเวียดนามอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงาน และเป้าการขายที่ดินทั้งปี 2565 เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางเข้าประเทศเวียดนามยังคงต้องกักตัว 7-21 วัน ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของนักลงทุนกลุ่มเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลองให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายประมาณ 200 ไร่ ทั้งนี้หากรัฐบาลเวียดนามสามารถผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะการลดระยะเวลากักตัวลงได้ บริษัทจะเริ่มติดต่อเจรจากับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจเข้ามาลงทุนในเวียดนามทั้งจากประเทศสิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลี, จีน ฯลฯ ได้อย่างต่อเนื่อง

“เนื่องจากการเดินทางเข้าประเทศเวียดนามยังไม่สะดวก จึงยังคงใช้การเจรจาพูดคุยผ่านโปรกแกรมต่างๆ ล่าสุดรัฐบาลเวียดนามเริ่มส่งสัญญาณว่าจะยกเลิกนโยบายปิดประเทศ โดยจะกำหนดแนวทางการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ควบคู่กับการเปิดเศรษฐกิจให้ได้ ก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ”

ลุยขยายนิคมใหม่

พร้อมกันนี้ บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง เฟส 2 บนพื้นที่ 120 เฮกเตอร์ (ประมาณ 750 ไร่) คาดว่าพร้อมขายได้ในปี 2565 โดยปัจจุบันได้เริ่มเจรจากับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแล้ว สำหรับความคืบหน้าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น ปัจจุบันพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเร่งจัดทำเอกสารที่ดินกับภาครัฐบาลเวียดนามให้เรียบร้อย คาดพร้อมขายให้กับผู้ประกอบการที่สนใจภายในปี 2565

ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้งกิจการร่วมค้า (JV) จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่ประมาณ 625 ไร่ในจังหวัดกว๋างนิญ (Quảng Ninh) ทางภาคกลางของประเทศเวียดนาม โดยบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 20%, นักลงทุนจากสิงคโปร์ถือหุ้นใน สัดส่วน 60%, และนักลงทุนจากญี่ปุ่นถือหุ้นในสัดส่วน 20% โดยปัจจุบันได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการแล้ว อยู่ระหว่างรอรัฐบาลเวียดนามจัดตั้งเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงกำหนดสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งจากจีน สิงค์โปร และญี่ปุ่นเข้ามาลงทุน

“บริษัทประเมินว่านักลงทุนทั่วโลกยังคงสนใจที่จะย้ายฐานการผลิตเข้ามาในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนด้านแรงงานยังไม่สูงมากนัก และยังมีการสนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐบาลที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยมองว่าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย จะช่วยให้ผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาขยายการลงทุนมากขึ้น”