รีเซต

KCGเร่งอัพกำลังผลิตเพิ่ม สินค้าใหม่ดันครึ่งหลังเด่น

KCGเร่งอัพกำลังผลิตเพิ่ม สินค้าใหม่ดันครึ่งหลังเด่น
ทันหุ้น
26 เมษายน 2567 ( 15:39 )
17
KCGเร่งอัพกำลังผลิตเพิ่ม สินค้าใหม่ดันครึ่งหลังเด่น

#KCG #ทันหุ้น – KCG คาดการณ์รายได้ปี 2567 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ชูยุทธศาสตร์ทางธุรกิจหนุนการเติบโตรอบด้าน ฟากโบรกคาดครึ่งปีหลังกำไรกลับมาเติบโตจากการรับรู้รายได้จากการออกสินค้าใหม่เต็มไตรมาส พร้อมขยับเป้าราคาขึ้นเป็น 12.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

นายดำรงชัย  วิภาวัฒนกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทประมาณการรายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขาย 7,157 ล้านบาท เติบโต 16.2% จากปีก่อนหน้า และทำกำไรสุทธิ 305.9 ล้านบาท เติบโต 26.9% จากปีก่อนหน้า โดยปีนี้บริษัทวางยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ (Business Strategy)

 

ได้แก่ มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจ (Growth), การพัฒนาบุคลากร (People), การขับเคลื่ององค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี (Innovation Data & Tech), การขยายตลาดส่งออก (Export), ยกระดับศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าที่ทันสมัยและครบวงจร (Supply Chain & Inventory)  ยกระดับการผลิตโดยใช้ระบบอัตโนมัติ (Production& Automation) และการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Sustainable Development)

 

สำหรับแนวทางการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในปี 2567-2572 บริษัทมีแผนพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพและบริการใหม่ตามเทรนด์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและระดับโลก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกัน และต่อยอดสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งที่ทำจากนมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ได้ทำจากนม เป็นต้น

 

*ขยายกำลังการผลิต

หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทได้ลงทุนสร้าง “KCG Logistics Park” หรือศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแบบครบวงจร บนพื้นที่ 15 ไร่ โดยนำเทคโนโลยีมาจัดเก็บผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้ง 3 อุณหภูมิ อาทิ ทั้งระบบแช่แข็ง,ระบบแช่เย็น และแบบอุณหภูมิห้องมาใช้ ทำให้สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เนยและชีสมีความสดใหม่

 

และนำเทคโนโลยีระบบ VMI (Vendor Managed Inventory) มาใช้เพื่อควบคุมระดับสต๊อกและการส่งสินค้าให้ทันเวลาซึ่งช่วยให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2567 นี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในไตรมาสที่ 2/2567 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้

ส่วนในด้านการผลิตได้มีการขยายกำลังผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีสในรูปแบบห่อเดี่ยว (IWS) เพิ่มขึ้นจากเดิม 2,106 ตันต่อปี เป็น 4,212 ตันต่อปี และอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเนยจากเดิม 18,000 ตันต่อปี เป็น 23,000 ตันต่อปี ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2568 และบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้รถไฟฟ้า (EV Truck) เป็น 30% ของจำนวนรถขนส่งทั้งหมด เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

*ครึ่งปีหลังกำไรโต

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า KCG สำหรับทิศทางในไตรมาสที่ 2/2567 ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรปกติจะสามารถทรงตัว QoQ ได้แม้เป็นช่วง Low Season เนื่องจากแผนการออกสินค้าใหม่ของที่บริษัทที่ถูกเลื่อนมาจากในไตรมาส 1/2567 และเติบโต YoY หนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดสูงขึ้น

 

นอกจากนี้บริษัทคาดว่ากำไรจะสามารถกลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ได้ในไตรมาส 3-4/2567 เนื่องจากไตรมาส 3/2567 จะรับรู้รายได้จากการออกสินค้าใหม่เต็มไตรมาส และไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะทำระดับสูงสุดของปีเนื่องจากเป็นช่วง High Season ของภาคท่องเที่ยวหนุนยอดขายทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม (เนยและชีส) และกลุ่มบิสกิต และคาด SG&A to Sales จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ตั้งแต่ในไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัทหนุน NPM ของบริษัท ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 12.50 บาท โดยราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER67 ที่15.2 เท่า ต่ำกว่าบริษัทที่ทำขนมขบเคี้ยวอื่น อาทิ  NSL และ TKN ที่ซื้อขายด้วย PER67 ราว17.0-18.0 เท่า และยังมี Upside Gain 28.2%  แนะนำ “ซื้อ”

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง