รีเซต

AGEรุกคอนเทนเนอร์ ราคาถ่านหินพุ่งดันงบ

AGEรุกคอนเทนเนอร์ ราคาถ่านหินพุ่งดันงบ
ทันหุ้น
5 สิงหาคม 2564 ( 02:12 )
85
AGEรุกคอนเทนเนอร์ ราคาถ่านหินพุ่งดันงบ

 

ทันหุ้น - AGE เล็งลงทุนขยายตู้คอนเทนเนอร์ หนุนโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งท่าเรือ รถบรรทุก และคลังสินค้า จ่อรับรู้รายได้เข้าเต็มแม็กซ์ ตั้งแต่ไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป ส่วนทิศทางราคาถ่านหินยังไม่มีสัญญาณลง เชื่อพุ่งต่ออีกนาน ชี้ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเท่าตัวทั้งในและต่างประเทศ ปักเป้ารายได้ทั้งปีแตะ 1.1 หมื่นล้านบาทฉลุย

 

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (ขนส่งทางน้ำ – ขนส่งทางบก – ท่าเรือ – คลังสินค้า ) แบบครบวงจร เปิดเผยว่า เตรียมขยายลงทุนตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มเติม เพื่อทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีท่าเรือ รถบรรทุก และคลังสินค้าแล้ว หากมีตู้คอนเทนเนอร์จะเสริมโลจิสติกส์ได้ครบทั้งหมด

 

เปิดท่าเรือรับทรัพย์

สำหรับปัจจุบันบริษัทได้เปิดให้บริการท่าเรือแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเริ่มมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากค่าผ่านท่าทั้งปีอยู่ที่ 70 ล้านบาท สำหรับรถบรรทุกปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มจำนวนรถบรรทุกชุดใหม่อีก 52 คัน รวมเป็น 104 คัน ซึ่งรถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเริ่มทยอยรับรู้รายได้แล้ว

 

ขณะที่ท่าเรือ และโกดังดังกล่าว ปัจจุบันมีสินค้าที่ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น ปูนเม็ด ปุ๋ย  แร่ทองแดง มันเส้น มันอัดเม็ด แร่หิน ถ่านหิน กากถั่ว ข้าวบาเล่ย์ ข้าวสาลี แร่ยิปซัมและแร่เหล็ก ซึ่งบริษัทจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านการขนถ่ายสินค้าที่รวดเร็วมาผนวก ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 

“ตอนนี้ท่าเรือของเราถือว่าได้มีการดำเนินการแล้ว ซึ่งงานท่าเรือเรารับงานที่ไม่ใช่ในส่วนของ AGE ด้วย เป็นงานของคนนอกเข้ามาใช้บริการ การมีท่าเรือทำให้เราได้หลายส่วน ทั้งเรือ รถบรรทุก ค่าผ่านท่า คลัง โกดังสินค้า ของเรามีครบขาดแต่ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเรากำลังจะมีการขยายเพิ่มเติม ทำให้ครบวงจรมากขึ้น การลงทุนอาจจะไม่เท่าไหร่เพราะเรามีส่วนอื่นหมดแล้ว” นายพนม กล่าว

 

รับรู้รายได้โลจิสติกส์

สำหรับการรับรู้รายได้ของธุรกิจโลจิสติกส์ ท่าเรือ และรถบรรทุกใหม่ คาดว่าจะรับรู้เข้ามาเต็มที่ในช่วงไตรมาส 3/2564 เป็นต้นไป โดยคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากโลจิสติกส์ในปีนี้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1.4 พันล้านบาท

 

ส่วนธุรกิจถ่านหินบริษัทมีเป้าหมายจะมีปริมาณยอดขายถ่านหินเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ราว 4.4 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากความต้องการถ่านหินในประเทศ และต่างประเทศโดยเฉพาะจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่ายังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยบริษัทมีการสต๊อกสินค้าไว้ประมาณ 3 เดือน

“ราคาถ่านหินตอนนี้ทิศทางยังไม่มีแนวโน้มจะลง เพราะอินโดนีเซียฝนตกหนัก การทำถ่านหินค่อนข้างลำบาก และการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น จีนยังคงมีความต้องการเยอะ มองแล้วมีแต่ทรงกับขึ้นต่อ ซึ่งเราขายในประเทศเป็นหลักประมาณ 20 กว่าล้านตัน ดังนั้นจึงมองว่าเป้ายอดขาย 5.5 ล้านตันในปีนี้จะเป็นไปได้” นายพนม กล่าว

 

เป้ารายได้ 1.1 หมื่นล.สำหรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมของทั้ง 2 ธุรกิจในปี 2564 อยู่ที่ 11,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 7,951.65 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจซื้อขายถ่านหิน (เทรดดิ้ง) ประมาณ 10,000 ล้านบาท และธุรกิจโลจิสติกส์ราว 1,000-2,000 ล้านบาท

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง