ศูนย์จีโนมฯ พบโควิดเดลตา 4 สายพันธุ์ย่อยในไทย

วันนี้ ( 23 ส.ค. 64 )ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยผลการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 จีโนมที่ระบาดในประเทศไทยทุกสัปดาห์พบว่า สายพันธุ์เดลตา ที่ระบาดอยู่ในไทยในขณะนี้เป็นสายพันธุ์ B.1.617.2 แต่เริ่มปรากฏเดลตาสายพันธุ์ย่อยขึ้นแล้ว และต้องเฝ้าระวังว่าสายพันธุ์ย่อยของเดลตา จะส่งผลกระทบต่อการระบาด การป้องกันด้วยวัคซีน หรือการรักษาด้วยยาต้านไวรัสหรือไม่
จากการสุ่มถอดรหัสพันธุ์กรรมทั้งจีโนม เมื่อวันที่ 15 สิงหหาคม จากตัวอย่างที่ส่งมาทั่วประเทศ อันเป็นการประสานงานกันระหว่างศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และกลุ่มพันธมิตร COVID-19 Network Investigations (CONI) พบ B.1.1.7 (อัลฟา) ร้อยละ11 / B.1.351 (บีตา) ร้อยละ 14 และ B.1.617.2 (เดลตา) ร้อยละ 71
และตรวจพบเดลตาสายพันธุ์ย่อย 4 สายพันธุ์ ในประเทศไทย ดังนี้
AY.4 หรือ B.1.617.2.4 (สายพันธุ์ย่อยของเดลตา) ร้อยละ 3 พบในเขตปทุมธานี
AY.6 หรือ B.1.617.2.6 (สายพันธุ์ย่อยของเดลตา) ร้อยละ 1 พบในประเทศไทย
AY.10 หรือ B.1.617.2.10 (สายพันธุ์ย่อยของเดลตา) ร้อยละะ 1 พบในเขต กทม.
AY.12 หรือ B.1.617.2.15 (สายพันธุ์ย่อยของเดลตา) ร้อยละ 1 พบในเขต กทม.
ขณะนี้สายพันธุ์เดลตาทั่วโลกพบการกลายพันธุ์แล้ว 60 ตำแหน่ง และกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อยเป็น เดลตา AY.1 - AY.22
สำหรับสายพันธุ์เดลตาพลัส หรือสายพันธุ์ “เนปาล” ที่เคยเป็นข่าว ปรากฏว่ามีการกระจายตัวติดต่อลดลง ปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ย่อย AY.1 และ AY.2 โดยมีลักษณะเด่นที่ต่างไปจาก B.1.617.2 สายพันธุ์หลัก คือมีการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 417 จาก “K” เป็น “N” (K417N) เช่นเดียวกับสายพันธุ์บีตา (แอฟริกาใต้)