รีเซต

รวมที่มา #StopAsianHate ทั่วโลกแห่แชร์  Stop ชนวนความเกลียดชังคนเอเชีย

รวมที่มา #StopAsianHate ทั่วโลกแห่แชร์  Stop ชนวนความเกลียดชังคนเอเชีย
PakornR
19 มีนาคม 2564 ( 10:15 )
1.6K

ข่าววันนี้ ที่กลายเป็นประเด็นร้อนระดับโลก เมื่อกระแส #StopAsianHate ถูกปลุกขึ้นจากข่าว การทำร้ายคนเอเชียที่อาศัยอยู่ในหลายประเทศ ทำให้ทั่วโลกแห่แชร์ข่าว จนสร้างกระแส  Stop ชนวนความเกลียดชังคนเอเชีย ให้เกิดขึ้น 

 

1.ประเด็นร้อนแรงจากข่าวการทำร้ายคนเอเชียที่สร้างแรงสั่นสะเทือนบนโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อคนทั่วโลกแห่ติดแฮชแท็ก #StopAsianHate เพื่อเรียกร้องหยุดสร้างความเกลียดชังต่อชาวเอเชีย 

 

2. หลังเกิดเหตุกราดยิงในร้านนวดสปา 3 แห่งใน 2 เมืองของรัฐจอร์เจียในสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นหญิงเชื้อสายเอเชีย 6 ราย

 

3. และเมื่อข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ส่งผลให้คนทั่วโลกออกมาประณามถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น และแห่ติดแฮชแท็ก #StopAsianHate ในที่สุด

 

 

 

 

กระแสความกลัวโควิด - 19 จุดชนวนความเกลียดชังคนเอเชีย ได้จริงหรือ ?

 

4. ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อคนเอเชีย หากใครยังจำกรณีคุณปู่วิชา ชายไทยวัย 84 ปี ถูกวัยรุ่นทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในเมืองซานฟรานซิสโกได้ เหตุความรุนแรงในครั้งนั้นไม่ได้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่คนเชื้อสายเอเชียตกเป็น "เหยื่อ" ถูกทำร้าย

 

5. แต่ยังเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวมาเรื่อย ๆ  อาทิ มีหญิงชราชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ วัย 61 ปี ถูกทำร้ายร่างกายบนรถไฟฟ้าใต้ดิน

 

6. ล่าสุด หญิงชราเชื้อสายเอเชีย วัย 76 ปี อาศัยในซานฟรานซิโก ถูกผู้ชายแปลกหน้าต่อยเข้าที่ตาซ้ายขณะที่เธอยืนรอสัญญาไฟจราจร และเธอป้องกันตัวโดยใช้ไม้ตีกระหน่ำชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจนคู่กรณีต้องหามนอนเปลส่งโรงพยาบาล โดยสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เธอบอกว่า ไม่ทราบจริง ๆ และไม่ได้ยั่วยุ หรือรู้จักชายคนดังกล่าวเลย แต่กลับถูกทำร้าย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอเกิดความหวาดกลัว อ่านข่าวอาม่าคลิก

 

7. กรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ว่าเหยื่อเหล่านี้ถูกโยงว่าเป็นชาวเอเชีย เป็นตัวแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด - 19 

 

ทำไมคนเอเชียต้องตกเป็น "เหยื่อ" ของความเกลียดชัง

 

7. หากวิเคราะห์จากข้อมูลของการเกิดไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 โรคอุบัติใหม่ที่สร้างผลกระทบไปทั่วโลก  ไม่เพียงแต่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดอาชญากรรมหลายรูปแบบมากขึ้นอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือ การโจมตี แอบทำร้ายร่างกายกลุ่มคนชาติพันธุ์อื่น ๆ 

 

8. เพราะการเกิดโรคคระบาดโควิด - 19 ปรากฏขึ้นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ประจวบกับมีการรายงานข่าวต่าง ๆ ของผู้คนที่ติดเชื้อโควิด - 19 อย่างรวดเร็ว จนเกิดกระแสความเกลียดชังต่อชาวเอเชีย และอีกหนึ่งผลพวงที่ทำให้จีนถูกใส่ร้าย มาจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยออกมาประณามกลุ่มชาติพันธุ์ จึงยิ่งเติมเชื้อไฟให้เกิดกระแสความเกลียดคนต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน 

 

ทั่วโลกแห่ประณามเหตุรุนแรง เกลียดชัง "ต่อต้านคนเอเชีย" ปมโควิด - 19

 

9. สถานการณ์ดังกล่าวปลุกพลังคนทั่วโลกลุกขึ้น ประณามเหตุรุนแรงต่อต้านคนเอเชีย (#StopAsianHate) จากปมโควิด - 19 หนึ่งในนั้นคือ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้กล่าวประณามอาชญากรรมความเกลียดชังอันชั่วร้ายที่มุ่งโจมตีชาวอเมริกาเชื้อสายเอเชีย พร้อมเตือนว่า การกระทำเช่นนี้ควรหยุดลงได้แล้ว 

 

10. ขณะที่  เพจเฟซบุ๊กอย่าง GQ นิตยสารผู้ชายเบอร์ 1 ของสหรัฐฯ ได้ร่วมแพร่เนื้อหาเพื่อรณรงค์ยุติการกระทำรุนแรงต่อคนเอเชียในสหรัฐอเมริกาด้วย 

 

 

กระแส ความเกลียดชังคนเอเชีย ในสหรัฐฯ น่ากลัวกว่า โควิด - 19  จะลดอคติลงได้อย่างไร ?

 

11.  การสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ  รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เพียงต้องเริ่มที่ตัวเองเท่านั้น แต่ทุกคนต้องตระหนัก และเคารพในสิทธิมนุษยชนของเพื่อนร่วมโลก รวมถึงการหยุดสร้าง Hate Speech (เฮทสปีด) หรือการแสดงออกที่สร้างความเกลียดชังบนโลกออนไลน์ ถือเป็นเครื่องมือที่เสมือนดาบสองคม มีผลกระทบสูง เพราะกระจายออกไปได้ในวงกว้าง รวดเร็ว

 

12. อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการเปิดใจยอมรับความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทั้งทางร่างกาย จิตใจ ความคิด และต่างเชื้อชาติ ทุกสีผิว คือความเท่าเทียมกันที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมโลกในยุคที่โควิด -19 ยังตามติดเป็นเงาตามตัวไปอีกนาน ร่วม #StopAsianHate #AsianAreHuman หยุดความเกลียดชังคนเอเชียกันเถอะ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

 

 

ภาพประกอบ : AFP 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง