TOA อานิสงส์ซ่อมสร้าง จับตากำไรปีนี้ร้อนแรง

#TOA #ทันหุ้น - TOA คาดระยะต่อไปหลังพ้นน้ำท่วมหนุนความต้องการซ่อมสร้าง และการใช้สีเพิ่มเกินปกติในปี 2569 ส่วนไตรมาส 4/2568 ผลงานดี ไลน์สินค้าใหม่เพิ่มฐานรายได้ ลุ้นทั้งปีนี้รายได้บวกเบาๆ ด้านโบรกชูปีนี้กำไรจ่อทำสถิติใหม่โต 21% อานิสงส์ต้นทุนต่ำลง คาดปีหน้าผลงานดีได้อีก ให้เป้าพื้นฐาน 19.80 บาท
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า จากกรณีน้ำท่วมครั้งใหญ่พื้นที่ภาคใต้ อำเภอสงขลา ย่อมจะตามมาด้วยการฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างอาคาร บ้านพักอาศัยจำนวนมาก ซึ่งต้องมีการใช้วัสดุก่อสร้าง และสีทาอาคารจำนวนมากตามมาด้วย
@ ซ่อมสร้างครั้งใหญ่
อย่างไรก็ดีในขณะนี้ที่ยังเป็นช่วงทำความสะอาด เก็บกวาด ยอดขายสินค้าประเภทสีน่าจะยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้เกิดความเรียบร้อยของพื้นที่ก่อน แต่ประเมินว่า ยอดขายสีจะได้รับผลดีที่ชัดเจนในปีหน้า ทำให้มีโอกาสซื้อมากขึ้นกว่าภาวะปกติ ขณะที่แนวทางดำเนินกลยุทธ์และแผนธุรกิจของ TOA ก็จะประกาศอย่างเป็นทางการในปีหน้าเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีมุมมองว่า ต่อเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2568 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 21,357.16 ล้านบาท สอดคล้องกับล่าสุด 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้แล้วรวม 16,194.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
อีกทั้งคาดหวังผลประกอบการไตรมาส 4/2568 ปรับตัวดีขึ้น ภายใต้สถานการณ์การหดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ยังกดดันธุรกิจสีทาอาคาร ทว่าบริษัทได้ขยายกลุ่มสินค้าใหม่ เพิ่มเติมมากขึ้นจึงเป็นการช่วยเสริมฐานรายได้ อีกทั้งเป็นการเข้าไปตอบโจทย์ตลาดซ่อมสร้างซึ่งกลับมีสัญญาณบวกที่ดีกว่า ทั้งนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากสีทาอาคาร เช่น เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง ยิปซัมบอร์ด กระเบื้อง และสุขภัณฑ์ เป็นต้น
@ วิเคราะห์แข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อ TOA โดยคาดกำไรปกติจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 เพิ่ม 21% จากปี 2567 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น
และเฉพาะไตรมาส 4/2568 ก็คาดเช่นกันว่า กำไรสุทธิจะฟื้นตัวชัดเจนทั้งในแง่เทียบไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ปัจจัยผลักดันมาจากการฟื้นตัวตามฤดูกาลและราคาวัตถุดิบที่ลดลง ซึ่งน่าจะช่วยรักษาอัตรากำไรให้สูงกว่าไตรมาสก่อน ภายใต้ยอดขายในประเทศไทยตั้งเป้าเติบโต 3% ขณะที่ตลาดต่างประเทศน่าจะขยายตัวอย่างน้อย 10% นำโดยการเติบโตสองหลักของเวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา
แม้ว่าการปรับขึ้นราคาสารเคมีจากซัพพลายเออร์รายใหญ่จะเป็นความเสี่ยงสำหรับปีหน้า การเติบโตที่แข็งแกร่งในต่างประเทศจะช่วยกระตุ้นยอดขายโดยรวม อย่างไรก็ดียอดขายในไทยจะยังคงเป็นประเทศที่มีสัดส่วนรายได้สูงสุดที่ 82% ของรายได้ทั้งหมด
สำหรับปี 2569 คาดการเติบโตจะอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยบวกจากยอดขาย ขณะที่อัตรากำไรยังคงทรงตัวหรืออ่อนตัวลงเล็กน้อย แม้ว่าซัพพลายเออร์หลักจะเริ่มปรับขึ้นราคาวัสดุ แต่ไม่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากความต้องการทั่วโลกที่อ่อนแอ
ทั้งนี้มูลค่าหุ้นยังคงน่าสนใจ คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 19.30 บาท สอดคล้องกับ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มปีหน้า เป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 4% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 19.80 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
